×

Wealth Me Up ใช้แรงทำเงิน

‘Jeff Bezos’ กับวิถี ‘Amazon.com’ โตช้าแบบแข็งแกร่ง

6,415

 

คนจำนวนมากแค่คิดจะเริ่มทำธุรกิจก็วาดฝันอย่างสวยหรู อยากจะรวยไวๆ ประสบความสำเร็จด่วนๆ แต่สำหรับมหาเศรษฐีแห่งวงการ E-commerce อย่าง ‘Jeff Bezos’ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ‘Amazon.com’ ได้ใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตสร้างอาณาจักรธุรกิจค้าปลีกออนไลน์จนมายืนอยู่แถวหน้าของโลกในปัจจุบัน และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของสตาร์ทอัพยุคนี้

 

แต่กว่าจะถึงวันนี้ได้ ‘Bezos’ ก็ต้องดิ้นรนไม่น้อย ธุรกิจที่เขาสร้างไม่ได้ประสบความสำเร็จทันทีทันควัน หรือทำกำไรได้ภายในไม่กี่เดือน แต่กลับใช้เวลานานถึง 6 ปี กว่าที่บริษัทจะทำกำไรครั้งแรกได้เบาๆ แค่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายได้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ซีอีโอ Amazon.com เป็นคนจำพวกอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ยอมทนให้ธุรกิจเติบโตอย่างช้าๆ ไม่รีบเร่งโกยกำไรเข้ากระเป๋า แต่จะทำรายได้ไปลงทุนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งให้ธุรกิจมากกว่า

 

กลยุทธ์ “โตช้าๆ” แบบนี้อาจไม่ถูกใจหลายคนโดยเฉพาะพวกนักลงทุน แต่กลับส่งผลดีในระยะยาวทำให้ Amazon ฝ่าวิกฤตฟองสบู่อุตสาหกรรมไอที หรือฟองสบู่ดอทคอม เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วมาได้ และเริ่มทำกำไรมากขึ้นทุกไตรมาส จนปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าตลาดสูงถึง 4.78 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่ามูลค่าของ WalMark ยักษ์ค้าปลีกสัญชาติอเมริกันถึง 2 เท่า

 

แม้จะยอมเห็นธุรกิจโตช้า แต่ ‘Bezos’ บอกว่าหากอยากเป็นผู้นำตลาดก็ต้อง ‘พร้อมเสี่ยง’ อย่าง Amazon เองต้องพยายามถึง 3 ครั้งกว่าจะสร้างจุดขายและผลักดันให้ธุรกิจผงาดในวงการนี้ได้สำเร็จ ‘Bezos’ เชื่อว่าความล้มเหลวและการประดิษฐ์คิดค้นอะไรซักอย่างเปรียบเสมือนฝาแฝดที่แยกจากกันไม่ได้ การสร้างสรรค์ต้องอาศัยการทดลอง และหากรู้ตั้งแต่แรกว่าได้ผลแน่ๆ มันก็ไม่ใช่การทดลอง เขาบอกว่าแม้ความพยายามบางครั้งจะไม่ผลิดอกออกผลเหมือนที่ตั้งใจไว้ แต่เชื่อได้เลยว่าคนเราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการตัดสินใจลงทุนเสมอ และนำประสบการณ์เหล่านั้นไปใช้ในอนาคตได้

 

ขณะที่เจ้าของธุรกิจหลายคนเอาแต่เกาะติดความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาทางตัดหน้าช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ แต่ ‘Bezos’ กลับมองว่า ‘ควรทุ่มเทความสนใจให้ลูกค้ามากกว่า”

ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า

 

สำหรับเขาแล้ว ความพึงพอใจของลูกค้าไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มันคือสิ่งสำคัญอย่างเดียวและเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจของ Amazon ที่มีเป้าหมายเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก เพราะเขาเชื่อว่าหากลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีกับบริษัท ก็จะบอกต่อความดีงามของสินค้าและบริการของ Amazon ให้คนอื่นได้รับรู้ต่อไป และในโลกของธุรกิจ Word of Mouth หรือการบอกต่อแบบปากต่อปากมีพลังมหาศาล

 

‘Bezos’ บอกด้วยว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีต้อง “ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าของกิจการ” หนึ่งในแนวทางการจ้างงานและให้ผลตอบแทนของ Amazon คือจะให้น้ำหนักกับการแจกหุ้นโบนัส (stock option) หรือให้สิทธิพนักงานในการซื้อหุ้นของบริษัทในราคาที่กำหนดไว้ มากกว่าการให้เป็นเงินสด

 

‘Bezos’ รู้ดีว่าปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อความสำเร็จของบริษัทมากๆ คือความสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพไว้กับองค์กร และบุคลากรมากคุณภาพเหล่านี้ควรจะคิดเหมือนกับเป็นเจ้าของธุรกิจคนหนึ่ง ดังนั้นควรแบ่งปันความสำเร็จขององค์กรให้กับพนักงานเกรดเอเหล่านี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแจกหุ้น โบนัส หรือแบ่งผลกำไรของบริษัทให้

 

แม้ว่าจะเรียนรู้สูตรสำเร็จของคนอื่นได้ แต่การสร้างธุรกิจก็ควรสร้าง “วัฒนธรรมองค์กรที่เหมาะสม” กับธรรมชาติของธุรกิจด้วยตัวเอง เพราะคงไม่มีบริษัทไหนจะมีอะไรเหมือนกันไปทุกอย่าง และต่างก็มีเป้าหมายเฉพาะขององค์กร ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจได้ว่ามีปัจจัยอะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจ ต้องตอกย้ำความสำคัญของสิ่งดังกล่าวบ่อยๆ และทำให้คนในองค์กรเห็นความสำคัญและยอมรับสิ่งนั้นด้วย

 

แนวทางเหล่านี้ทำให้ ‘Bezos’ นำ Amazon ฝ่าวิกฤตไอทีมาได้สำเร็จและยังเติบโตอย่างสดใสในยุคดิจิทัลที่ E-commerce ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเราไปแล้ว

ในโลกธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่น แต่ต้องรู้จักพลิกแพลงให้เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองด้วย เพราะไม่ว่าชีวิตหรือธุรกิจ เราต่างมีโจทย์ไม่เหมือนกัน!

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats