แชร์ประสบการณ์ซื้อกองทุนครั้งแรก
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ทำงานมาหลายปี มีเงินเหลือเก็บกี่ที ก็ฝากธนาคารอย่างเดียว พอเงินในบัญชีเริ่มเยอะก็มีคนมาเสนอให้ลงทุนกองทุนรวม บอกผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
ฟังดูก็น่าสนใจดีเลยลองแบ่งเงินไปลงทุนดู พอผ่านมา 1 ปี ตอนนี้ผลตอบแทนก็สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากจริงๆ แล้วขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือน่ากลัวเลย ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครสนใจอยากลงทุนตามบ้าง
เลือกจากธนาคารที่ใช้อยู่
ต้องบอกว่าปกติใช้บัญชีหลักอยู่แค่ธนาคารเดียวก็คือบัญชีเงินเดือน เงินเก็บถ้าไม่ไว้ในบัญชีเงินเดือนก็ไว้ในเงินฝากประจำของธนาคารนี้ จนมาวันหนึ่งพนักงานก็ชักชวนให้แบ่งเงินบางส่วนไปซื้อกองทุนดู พร้อมบอกข้อดีต่างๆ นานา รวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วย เมื่อเห็นว่าขั้นตอนเปิดบัญชีและซื้อขายไม่ได้ยุ่งยาก ยอดเงินก็ดูได้ทุกวันบน Mobile Banking Application เดิมที่ใช้อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจลองเปิดบัญชีกองทุนดู
เงินลงทุนเริ่มต้น
จริงๆ กองทุนทั่วไปเปิดบัญชีขั้นต่ำได้ที่หลักร้อยบาท แต่เพื่อให้เห็นน้ำเห็นเนื้อ ก็เลยลองเปิดที่ 10,000 บาท ซึ่งสำหรับตัวเองก็แค่ 10% – 20% ของเงินเก็บที่มีอยู่ ต่อให้ขาดทุนไป ก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร
เปิดบัญชีกองทุน
เอกสารที่ใช้ก็แค่ บัตรประชาชนและสมุดเงินฝากออมทรัพย์ พร้อมเงินลงทุนครั้งแรกเท่านั้น แต่เอกสารที่ต้องกรอกออกจะเยอะไปหน่อย ยังไงก็เผื่อเวลาเปิดบัญชีกองทุนที่ธนาคารไว้สัก 20-30 นาทีด้วยนะ
ประเมินความเสี่ยง
หนึ่งในเอกสารที่ต้องกรอกคือ แบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน ซึ่งเป็น multiple choice ประมาณ 10 ข้อกว่าๆ โดยผลของแบบประเมินจะบอกได้ว่าเรายอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ระดับใด และเหมาะกับกองทุนประเภทไหน ซึ่งประเมินแล้วพบว่าตัวเองเหมาะกับกองทุนความเสี่ยงระดับ 4 (จาก 8 ระดับ) คือกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งถือว่าไม่ใช่ความเสี่ยงที่สูง ก็เลยไม่ได้กังวลอะไร
เช็กยอดเงินในบัญชี
ต้องบอกก่อนว่ากองทุนไม่เหมือนเงินฝาก เมื่อเปิด Mobile Banking จะเห็นเลยว่าเงินในบัญชีจะขึ้นลงทุกวันตาม NAV เงินที่ลงทุนไป 10,000 บาท ในช่วงแรกๆ จะเห็นเหลือแค่ 9 พันกว่าบาทแทบทุกวัน จนเคยคิดว่าคงไม่ลงทุนอีกแล้ว เงินฝากไม่เห็นเคยเป็นแบบนี้เลย
แต่พอผ่านช่วงแรกๆ มาได้ อย่างตอนนี้ผ่านมา 1 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะกับกองทุนที่ลงทุน ตามที่ระบุใน Fund Fact Sheet พบว่า เงินในบัญชีจากหนึ่งหมื่นบาทเพิ่มเป็น 10,316 บาท* หรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณปีละ 3.16% หากเทียบกับการนำเงินที่เท่ากันไปฝากประจำคงได้เงินเพียง 10,132 บาท** เท่านั้น
แม้จำนวนเงินดูไม่ต่างกันสักเท่าไร แต่คิดว่าก็เป็นจุดเริ่มต้นการได้ลองลงทุน ทำให้รู้ว่าผลตอบแทนมาจากไหน ความเสี่ยงเป็นอย่างไร เพื่อก้าวไปสู่การลงทุนรูปแบบอื่นต่อไปได้ ลงทุนใครๆ เขาก็ว่าเสี่ยง แต่ถ้าแค่เจียดเงินเล็กๆ ไปลองอะไรใหม่ๆ อาจได้ประสบการณ์ดีๆ กลับมา แต่ถ้าเจอช่วงไม่ดี ก็คิดซะว่าเป็นค่าเรียนหลักสูตรการลงทุนเท่านั้นเอง
* คำนวณจาก NAV กองทุน K-FIXED ในวันทำการแรกและวันทำการสุดท้ายของปี 2562
** คำนวณจากดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารกสิกรไทย เมื่อเปิดบัญชีในวันทำการแรกของปี 2562
