ลงทุนนิยม EP.46 : อย่าหยุด DCA เมื่อวิกฤติกระทบพอร์ต
นักลงทุนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเดือน มี.ค. ยาวนานเหลือเกิน ตลาดหุ้นหลายแห่งต้อง Circuit Breaker บ้านเราก็จัดไป 3 ครั้ง ในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ SET index ลงไปต่ำสุดหลุด 1,000 จุด จากต้นปีที่ 1,600 จุด ดังนั้นใครที่ลงทุนแบบ DCA ในรอบ 5 ปีนี้พอร์ตแดงกันถ้วนหน้า
ทำไมพอร์ตแดง?
“นิ้วโป้ง อธิป กีรติพิชญ์” นักลงทุน VI ระบุว่า นักลงทุนที่ลงทุนแบบ DCA เรื่อยมาจะพบว่าพอร์ตของตัวเองแดง ซึ่งไม่แปลก เพราะค่าเฉลี่ยของการลงทุน DCA 5 ปีย้อนหลัง SET วิ่งอยู่ประมาณ 1,500 กว่าจุด ซึ่งปัจจุบัน SET อยู่ที่ประมาณ 1,200 แปลว่า ถ้า DCA ประมาณ 5 ปี พอร์ตจะติดลบประมาณ 20%
ควรหยุด DCA มั้ย?
“อย่าหยุด DCA ในตอนที่ตลาดหุ้นมีหุ้นถูกเต็มไปหมด” คือคำตอบจากนักลงทุนมากประสบการณ์ เนื่องจากมองว่า DCA เป็นการลงทุนระยาว ควรจะคาดหวังในการลงทุนแบบ DCA ออมหุ้น ประมาณ 10-15 ปี ต้องทำใจให้สบาย และยึดมั่นกับวินัยในการออมหุ้น
สำหรับการเลือกหุ้นเพื่อ DCA ต่อ “นิ้วโป้ง” แนะนำว่าให้พิจารณาตัวหุ้น ที่อยู่ใน List ของการ DCA ว่าหุ้นทุกตัวหลังจากที่ผ่าน COVID-19 หุ้นเหล่านี้ยังกลับมาได้ไหม มีตัวไหนที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะไม่กลับมาหรือกลับมาไม่ดีเหมือนก่อน ถ้ามีควรหยุดเติมเงินเข้าไปในหุ้นตัวนั้น แล้วเปลี่ยนหุ้นตัวใหม่ในการเติมเงินแทน ซึ่งเวลาในช่วงแบบนี้หุ้นแบบ Defensive Stock เช่น Infrastructure ไฟฟ้า สื่อสาร ประปา จะเป็นหุ้นที่แข็งแกร่ง ดีกว่า Growth Stock
5 ช่วงของ Panic Sell
ช่วงที่ 1: ช่วงรีบซื้อ
ช่วงที่ดัชนีเพิ่งย่อลงมาใหม่ๆ เช่น ตลาดหุ้นไทยเดือนมกราคม ที่เปิดประมาณ ใกล้ๆ 1,600 จุด แล้วลดมาเหลือ 1,500 จุด นักลงทุนจำนวนมากจะเข้าไปรีบซื้อเพราะว่ามีความเชื่อว่า ตอนนี้หุ้นถูกแล้ว ซึ่งถ้าเป็นวิกฤติทั่วๆ ไปไม่น่าจะผิดอะไร แต่ปรากฏว่าจาก 1,500 จุด ลงมาเหลือ 1,400 จุดเพราะว่าวิกฤติ COVID-19 มันเริ่มลามไปประเทศอื่นๆ
ช่วงที่ 2: ช่วงเงินหมด
เป็นช่วงที่นักลงทุนขุดเงินสดมาถัวแล้ว จนต้องเรียกว่าเป็นช่วงช้อนหัก คือถัวไปเรื่อย จนเงินหมด ซึ่งทุกๆ ช่วงที่ผ่านมา เข้าช่วงที่ 2 ตลาดจะออก Sideway อย่างปี 2015 ที่มีวิกฤติราคาน้ำมันลงจาก $100 ลงเหลือประมาณ $30 เข้าสู่ช่วงที่ 2 คือตกลงมาแล้วเริ่มออกข้าง ถือว่าพอแล้ว แล้วก็จะเด้งขึ้น แต่มารอบนี้มันเป็นวิกฤติที่ใหญ่กว่านั้น เพราะหลังจากที่เหลือ 1,400 ก็ลงพรวดเดียวถึง 1,300 จุด ปรากฏว่าตอนนี้นักลงทุนเริ่มติดแล้ว มันจะเปลี่ยนจากช่วงที่ 2 ไปช่วงที่ 3
ช่วงที่ 3: คัทหนีตาย
เป็นช่วงที่เรียกว่าหมดหวัง คือจาก 1,300 เหลือ 1,200// 1,200 เหลือ 1,100// 1,100 เหลือ 1,000 ถ้วน Circuit Breaker ทำงานบ่อยมากในช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติ ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่ง ที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว cut loss ไป ซึ่งช่วงนี้จริงๆ แล้วควรจะอยู่นิ่งๆ แล้ว ไม่เติมเงินใหม่แล้วก็ลองเฝ้าดูตลาดว่าจะเคลื่อนที่ไปยังไง ก่อนเข้าสู่ช่วงที่ 4
ช่วงที่ 4: เชื่อกลับข้าง
ช่วงสุดท้ายในขาลงรอบหนึ่ง คือช่วงที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนความคิด จากเดิมเชื่อว่าสุดท้ายหุ้นจะกลับมา กลายเป็นมองลบมาก คือเชื่อว่าเดี๋ยวหุ้นจะต้องลงไปอีก เขาจะเริ่ม Short หุ้น เขาจะเริ่ม Short TFEX เขาจะเริ่ม Short Against Port คือ ขายหุ้นติดลบเยอะๆ ในพอร์ตไปก่อน เอาเงินสดมาแล้วก็ถือรอคิดว่าหุ้นจะลงไปถึง 800 ลงเหลือ 600 แล้วกลายเป็นว่าผิดซ้ำผิดซ้อน
ช่วงที่ 5: หุ้นฟื้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือในช่วงเดือนมีนาคม รัฐบาลทั่วโลกก็มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดหลักทรัพย์มีมาตรการปรับเกณฑ์ ทำให้หุ้นไทยยืนได้ประมาณ 1,000 จุดต้นๆ แล้วก็ออก sideway มาครึ่งเดือน แล้วก็ปรับเป็น 1,100 ปรับเป็น 1,200 ซึ่งนับจากนี้ “นิ้วโป้ง” มองว่าเริ่มมีแนวทางการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าตลาดหุ้นจะไม่ร่วงลงอีกรอบ
มือเก่า vs. มือใหม่ กลยุทธ์ในการ DCA
สำหรับนักลงทุนที่ DCA อยู่ “นิ้วโป้ง” แนะนำว่าการ DCA คือการเลือก Good Stock at Good Price และในปัจจุบันคือช่วงเวลา Good Price นอกจากนี้หลักการออมหุ้นแบบ DCA คือการออมในต้นทุนที่หลากหลาย ทั้งช่วงหุ้นแพงและช่วงหุ้นถูก ดังนั้นในช่วงที่ราคาหุ้นปกติ หรือค่อนข้างแพงเราซื้อเก็บมาเรื่อย แล้วตอนนี้หุ้นถูกลงมา เราจะไม่ซื้อเก็บเลยหรือ
ส่วนนักลงทุนมือใหม่ นักลงทุนที่อยู่ในตลาดมาหลายสิบปีบอกว่า นี่คือโอกาสแห่งทศวรรษ เพราะช่วงเวลานี้ มีหุ้นดีๆ ซึ่งร่วงลงมา 25% 30% หรือมากถึง 50% ก็มี ดังนั้นหากมีเงินสด มีเงินออม ที่คิดมานานแล้วว่าอยากจะเริ่มลงทุน อยากจะสร้างความมั่งคั่งในตลาดหลักทรัพย์ฯ เวลานี้เป็นโอกาสที่ดี
แขกรับเชิญ: อธิป กีรติพิชญ์ นักลงทุน VI
พิธีกร: เฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://setga.page.link/Py2bcBbrXWjttMdv8
