×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

4 ข้อต้องห้าม!…ก่อนที่เงินออมจะหายหมด

2,872

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ในทุกวันนี้ กว่าที่เราจะออมเงินได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์นั้นเรียกว่ายากแล้ว แต่การรักษาเงินออมที่มีอยู่ไม่ให้เสียหายหรือสูญหายไปนั้นถือว่ายากกว่า เนื่องจากมีปัจจัยลบและสิ่งเร้ามากมายที่พร้อมจะฉุดเงินออมให้หดหายไปทุกเมื่อ โดยเฉพาะ 4 เรื่องสำคัญต่อไปนี้ ที่ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

 

นำเงินออมไปลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจ

 

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หน่วยลงทุน ทองคำ หรือการลงทุนในธุรกิจจริง เช่น เปิดร้านอาหาร ร้านขายของ สถานบริการ เป็นต้น การลงทุนในเรื่องที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ แต่พิจารณาเพียงตัวเลขผลตอบแทนที่ได้รับการบอกกล่าว หรือข้อความชวนเชื่อจากบุคคลอื่นเป็นหลัก ถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเงินออมที่มีอยู่ ทั้งนี้ ต้องระลึกไว้เสมอว่าการลงทุนใด ๆ ก็ตาม ที่ให้ผลตอบแทนสูง ย่อมต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่เหลือระยะเวลาการออมหรือระยะเวลาทำงานอีกไม่นานนัก เนื่องจากหากเกิดความเสียหายหรือผลการลงทุนไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้ ก็จะเป็นเหตุให้เราต้องสูญเสียเงินออมก้อนนั้นไป

 

ใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดรายได้

 

ด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์สินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงโปรโมชั่นส่งเสริมการขายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน ทำให้ในหลาย ๆ ครั้ง เรามักจะนำเงินออมไปซื้อสินค้าประเภท โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น (เนื่องจากมีอยู่แล้ว) แทนที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนหรือซื้อสินทรัพย์ (ที่ยังไม่เคยมี) เพื่อให้เกิดดอกออกผล และเพิ่มความมั่งคั่งของเงินออมให้สูงขึ้นในอนาคต

 

ให้บุคคลอื่นหยิบยืม

 

ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิท มิตรสหาย หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการยืมเงินเกิดขึ้นมากมาย เมื่อลองค้นหาคำว่า “ยืมเงินแล้วไม่คืน” ก็จะพบเว็บไซต์รวมถึงกระทู้แสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตจำนวนมากที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว การนำเงินออมที่เก็บสะสมไว้ ไปให้บุคคลอื่นหยิบยืม นอกจากจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการไม่ได้รับเงินคืนแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียมิตรภาพ และการผิดใจที่จะเกิดขึ้นในฐานะเจ้าหนี้-ลูกหนี้ อีกด้วย หากมีความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น สามารถทำได้ด้วยการแนะนำสถาบันการเงินที่เน้นบริการสินเชื่อแก่ลูกค้าบุคคลซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบัน

 

ฝากเงินออมทั้งหมด ทิ้งไว้ในบัญชีออมทรัพย์

 

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Facebook เคยกล่าวไว้ว่า “ความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุด คือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย (The biggest risk is not taking any risk)” ถือเป็นคำกล่าวที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ในชีวิต รวมถึงการออมเงิน เนื่องจากสินค้าและบริการต่าง ๆ จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามภาวะเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 15 ปีย้อนหลังของประเทศไทย อยู่ที่ 2.09% ต่อปี (ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์) ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เฉลี่ย 15 ปีย้อนหลัง มีค่าเพียง 0.88% ต่อปี (ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย) การฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ นอกจากจะไม่ช่วยให้เกิดความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในอีกด้านหนึ่งกลับทำให้อำนาจซื้อของเงินออม ค่อย ๆ หดหายไปตามภาวะเงินเฟ้อ และมีความเสี่ยงที่เงินออมจะไม่เพียงพอเพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณอีกด้วย

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats