เคล็ดลับ ‘อายุยืน’ แบบคน ‘นอร์เวย์-ญี่ปุ่น-ฮาวาย’
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
Annie Daly นักข่าวชาวอเมริกัน ได้เดินทางไปยังนอร์เวย์ ญี่ปุ่นและฮาวาย เพื่อสัมภาษณ์ผู้คนและผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขและอายุยืน
และนี่คือ 3 เคล็ดลับที่ใครอยากอายุยืนแถมมีความสุข ต้องลองทำตามกัน
การออกไปใช้ชีวิตข้างนอก
ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คนที่อยากไปใช้ชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งคนนอร์เวย์จะมีคำพูดที่มักพูดกันคือ “Friluftsliv” (ฟรี–ลูฟ–ลิฟ) มีความหมายว่า “การใช้ชีวิตกลางแจ้ง” คือการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน อยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากรายงานของ The Environmental Protection Agency ของสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวอเมริกันมักใช้เวลาประมาณ 90% อยู่แต่ในบ้าน ซึ่งในบ้านหรือตัวอาคารนั้นจะมีความเข้มข้นของมลพิษบางชนิดที่สูงกว่านอกบ้านถึง 2-5 เท่า และนั่นไม่ดีต่อสุขภาพ
ดังนั้นหากอยากมีความสุขและอายุยืนยาวแบบชาวนอร์เวย์ ต้องออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้าง อาจลองปรับการใช้ชีวิตแต่ละวันของเรา เช่น การเดินไปซื้ออาหารแทนการสั่งออนไลน์ การไปปิกนิกที่สวนสาธารณะแทนการทานข้าวในบ้าน การไปวิ่งที่สวนสาธารณะแทนการเข้าฟิตเนส เป็นต้น
ทำ ‘อาหาร–เครื่องดื่ม’ ที่มีขั้นตอนซับซ้อน
ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอายุยืน ผู้คนมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 85 ปี และกิจกรรมสำคัญของคนญี่ปุ่นก็คือ การชงชา
การชงชา จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องพิถีพิถัน ในระหว่างที่ชงชานั้น พวกเขาจะต้องโฟกัสกับแต่ละขั้นตอนอย่างมาก จนไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆ เลย ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้เรามีสมาธิและฝึกให้อยู่กับปัจจุบันได้
Shigenori Nagatomo ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาจาก Temple University ได้กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีความสุขคือ เวลา ปกติเวลาเราใช้ชีวิตมักจะชอบเปรียบเทียบและคิดว่ามีสิ่งอื่นที่ดีกว่าสิ่งที่เราทำอยู่ ณ ขณะนั้น และนั่นจะทำให้เราไม่มีความสุขกับปัจจุบัน
ดังนั้นการโฟกัสกับการทำอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่มีขั้นตอนซับซ้อน จะทำให้มีสมาธิ ช่วยโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน และมีความสุขยิ่งขึ้น
เรียนรู้เรื่องราวของตนเอง
ฮาวาย ถือเป็นรัฐที่ประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยสูงสุดของสหรัฐฯ Greg Solatario ชาวฮาวายพื้นเมือง ได้บอกว่า การจะมีชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดีได้ ต้องเรียนรู้เรื่องราวของตัวเองให้ดี และเขาเชื่ออย่างมากว่า การที่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน จะช่วยให้เราเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้นและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
nana i ke kumu ประโยคของชาวฮาวายที่แปลว่า ดูจากต้นกำเนิด เป็นแนวคิดที่ให้กลับไปดูบรรพบุรุษของเราว่ามีต้นกำเนิดอย่างไร เพื่อให้เราใช้ชีวิตอย่างเข้าใจพื้นฐานมากขึ้น อย่างการสอบถามและพูดคุยกับ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือจากผู้อาวุโสคนอื่นๆ
และนี่คือ 3 เคล็ดลับที่จะช่วยให้อายุยืนและมีความสุขได้ จากผู้คนชาวนอร์เวย์ ญี่ปุ่นและฮาวาย ที่เป็นกลุ่มคนที่สุขภาพดีและอายุยืน