เงินฝากออมทรัพย์–เงินฝากดิจิทัล–กองทุนรวมตลาดเงิน ต่างกันอย่างไร?
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ชวนมาดูช่องทาง ‘เก็บออม–ลงทุน’…ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย
จะมี ‘ข้อดี–ข้อเสีย’ อะไรบ้าง มาดูกัน…
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
เป็นบัญชีที่มักไม่กำหนดระยะเวลาและจำนวนครั้งในการฝากถอน มักใช้ร่วมกับบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต และสามารถใช้หักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยมักกำหนดเงินฝากขั้นต่ำไว้ไม่สูงนัก แต่ผลตอบแทน (อัตราดอกเบี้ย) ค่อนข้างต่ำ และคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะสั้น มีสภาพคล่องเผื่อไว้กรณีต้องทยอยถอนเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ใช้ทำรายการผ่านบัญชีธนาคาร เช่น รับโอนเงินเดือนและชำระค่าสาธารณูปโภค
โดยทั่วไปบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จะคิดดอกเบี้ยให้ผู้ฝากทุกวัน แต่จะจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ฝากปีละ 2 ครั้ง คือ ในเดือนมิถุนายนและธันวาคม ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละงวดก็จะมารวมเป็นเงินต้น สำหรับคิดดอกเบี้ยในแต่ละวันต่อไปด้วย ซึ่งมีหลักการและวิธี ดังนี้
- หากได้รับดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์รวมทุกบัญชีจากธนาคารแห่งเดียวกันเกิน 20,000 บาทในปีภาษีนั้น ธนาคารมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 15% และนำส่งกรมสรรพากรต่อไป
- หากมีการฝากออมทรัพย์หลายธนาคารและมีดอกเบี้ยรับรวมกันทุกแห่งเกินกว่า 20,000 บาทในปีภาษีนั้น ผู้ฝากมีหน้าที่แจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ย เพื่อให้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งกรมสรรพากรต่อไป
บัญชีเงินฝากดิจิทัล
บัญชีเงินฝากอีกประเภทที่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น เช่น 1.5% ต่อปี เป็นบริการเงินฝากที่ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้นๆ โดยไม่ต้องไปที่สาขา ไม่มีสมุดคู่ฝาก ทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา
บัญชีเงินฝากดิจิทัล สามารถใช้สร้างวินัยการออม รวมถึงใช้แบ่งบัญชีตามความต้องการใช้เงินระยะสั้น กลาง ยาว สำหรับบัญชีเก็บออมเพื่อเป้าหมายสำคัญที่มี เช่น เงินเก็บไว้จ่ายเบี้ยประกันประจำปี เงินเก็บค่าเทอมลูกระยะสั้น เงินเก็บไว้ซื้อของที่ต้องใช้เงินก้อน เช่นเงินดาวน์บ้าน หรือแม้แต่ใช้เป็นบัญชีพักเงินสำหรับทำธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องในการนำออกมาใช้สูง แต่ต้องการผลตอบแทนที่ดีด้วยโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กๆ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ สำหรับการคิดดอกเบี้ยก็เหมือนกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ปกติ
กองทุนรวมตลาดเงิน
เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในเงินฝากของธนาคารหรือตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือพันธบัตรและหุ้นกู้เอกชนที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 397 วัน โดยนโยบายจะเน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นๆ ที่มีอายุคงเหลือของตราสารต้องไม่เกิน 397 วัน โดยอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในกองทุนจะไม่เกิน 92 วัน และเป็นกองทุนเปิดที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ คือ ภาษี เพราะกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้จะหักภาษี 15% ของดอกเบี้ยหรือส่วนลดในตราสารหนี้ที่กองทุนได้รับ โดยการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายดังกล่าวจะเป็นการหักจากกองทุนโดยตรง
ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ผลตอบแทนกองทุนรวมที่มีการลงทุนในตราสารหนี้จะลดลง เนื่องจากผลกระทบของภาษีจากดอกเบี้ยที่กองทุนจะได้รับจากผู้ออกตราสารหนี้จะถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ 15% ซึ่งจะสะท้อนมาที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนที่เกิดจากดอกเบี้ยที่ได้รับ
