ลงทุนต่อดีไหม ในช่วงที่กองทุนติดลบ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่แน่นอนในโลกการลงทุน เช่น ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ที่สหรัฐฯ ปิดกิจการ หรือปัญหาสภาพคล่องธนาคาร Credit Suisse ฯลฯ ทำให้ราคากองทุนหุ้นและกองทุนผสมหลายกองทุนปรับตัวลงอย่างหนัก
แล้วผู้ที่มีเงินเก็บหรือเงินลงทุน ควรใช้สิ่งใดเพื่อตัดสินใจลงทุน ในสถานการณ์ความแน่นอนเช่นนี้ มาดูกัน
เงินที่มี ลงทุนได้นานแค่ไหน?
จากสถิติย้อนหลังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นไทย หุ้นโลก ฯลฯ ที่แม้การลงทุนช่วงสั้นๆ เช่น 1 ปีที่ผ่านมา จะขาดทุน -4.38% ต่อปี และ -6.92% ต่อปี ตามลำดับ แต่หากลงทุนได้นานขึ้น เช่น 10 ปีขึ้นไป จะกำไร +2.96% ต่อปี และ +9.04% ต่อปี ตามลำดับ (อ้างอิงผลตอบแทนย้อนหลัง ณ 17 มี.ค. 66 ของ ดัชนี SET TRI และ MSCI ACWI)
ดังนั้น เงินที่มีหากสามารถลงทุนได้นานพอ รอจนกว่าสถานการณ์ผ่านพ้นไป เงินลงทุนในกองทุนต่างๆ ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูง คุ้มค่ากับระยะเวลาที่ลงทุนไป
โดยควรเช็กบทวิเคราะห์หรือความเห็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนด้วยว่า กองทุนหุ้นกลุ่มหรือประเทศไหน มีอนาคตหรือมีโอกาสเติบโตสูงกว่ากองทุนหุ้นกลุ่มอื่น เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจลงทุนในกองทุนที่ปรับตัวลงครั้งนี้ จะเป็นการลงทุนของดีในจังหวะราคาถูก
เงินที่มี ลงทุนที่ไหนบ้าง?
แม้ตลาดหุ้นหรือกองทุนหุ้นส่วนใหญ่ จะมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว แต่ก็มักมีความผันผวน โดยบางปีกำไร แต่บางปีก็ขาดทุน ดังนั้นแม้จะตั้งใจลงทุนระยะยาว แต่การลงทุนกระจุกตัวแค่บางกองทุน หากมีความต้องการใช้เงินกะทันหัน อาจจำเป็นต้องขายคืนกองทุนนั้นในช่วงที่ขาดทุนได้
เงินที่ลงทุนใหม่ จึงควรเลือกกองทุนหรือสินทรัพย์ที่ต่างหรือหลากหลายจากสิ่งที่ลงทุนอยู่เดิม เช่น หากเดิมเน้นลงทุนกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลัก เงินใหม่ก็ควรลงทุนหุ้นกองทุนจีน/เอเชีย เป็นต้น รวมถึงควรมีการแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างกองทุนตราสารหนี้ ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ด้วย เช่น รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรมีกองทุนตราสารหนี้ 40% และกองทุนหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงสูงอื่น 60% เป็นต้น
มีตัวช่วยลงทุนระยะยาวหรือไม่?
แม้สถิติที่ผ่านมาสะท้อนว่าการลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกองทุนหุ้นมักให้ผลตอบแทนสูงเป็นที่น่าพอใจ แต่ในชีวิตจริงเมื่อกองทุนที่ถืออยู่มีความผันผวนหรือขาดทุนอย่างหนัก การถือกองทุนนั้นต่อเพื่อรอให้ราคาปรับขึ้นมาอีกครั้งอาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อราคายังคงปรับตัวลงต่อ หรือยังคงมีกระแสข่าวเชิงลบมารุมเร้า
กองทุน SSF/RMF หนึ่งในทางเลือก ที่ช่วยให้เราสามารถอยู่กับความผันผวนของกองทุนได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เนื่องจากมีระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน เช่น 10 ปี สำหรับกองทุน SSF ดังนั้นแม้จะเห็นว่ากองทุนที่ถืออยู่มีผลขาดทุนแต่เมื่อรู้ว่าไม่สามารถขายคืนออกมาได้ ก็จะสามารถถือลงทุนต่อไป อย่างมีความสุข หรือมีความกังวลน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนกองทุนหุ้นทั่วไป
การลงทุนมีความเสี่ยง มูลค่าเงินลงทุนขึ้นลงได้อยู่เสมอ แต่หากเราตัดสินใจลงทุนอย่างมีสติ ด้วยเหตุผลที่ดี และถือลงทุนได้นานพอ กระแสข่าวในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ก็ไม่ใช่สิ่งที่สร้างความกังวลให้ต้องเลิกหรือชะลอการลงทุนเลย