×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

9 หุ้น น่าเก็บเข้าพอร์ต ช่วงเงินเฟ้อสูง

1,144

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Facebook | Line Youtube | Instagram

 

ในภาวะดอกเบี้ยปรับขึ้น เงินเฟ้อสูง ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น ราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น ต้นทุนการกู้เงินสูงขึ้น ผลที่ตามมา คือ กำไรปรับลดลง

 

จากผลกำไรของบริษัทปรับลดลง ทำให้ลดความน่าสนใจของการลงทุน นักลงทุนลดการลงทุนในหุ้นด้วยการโยกเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ เพราะถึงแม้จะได้ผลตอบแทนไม่สูง แต่ก็ลดความเสี่ยงลงไปได้ จึงสังเกตเห็นว่าราคาหุ้นมักจะปรับลดลง

 

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นควรวางกลยุทธ์ให้รัดกุม ด้วยการเลือกเฟ้นหุ้นที่มีความทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อสูง โดยในเบื้องต้นต้องเลือกหุ้นดังนี้

 

D/E Ratio ต่ำ

 

D/E Ratio สะท้อนถึงการก่อหนี้ของบริษัท เช่น กู้ยืมธนาคาร ออกหุ้นกู้ ซึ่งผลที่ตามมา คือ มีภาระผูกพันในรูปของดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ถ้ามีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสูงก็มีความเสี่ยงสูงต่อสภาพคล่องทางการเงิน และอาจผิดนัดชำระหนี้ได้ ดังนั้น ในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับขึ้น เงินเฟ้อสูง ควรมองหาบริษัทที่ก่อนหนี้ต่ำ ๆ หรือไม่มีหนี้สิน เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน

 

Gross Profit Margin สูง

 

อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ซึ่งนักลงทุนใช้ประเมินสถานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนว่ามีความสามารถในการควบคุมต้นทุนเพื่อสร้างกำไรได้มากน้อยเพียงใด (แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายสุทธิ)

 

  • Gross Profit Margin สูง แสดงถึง บริษัทมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิต 
  • Gross Profit Margin ต่ำ แสดงถึง บริษัทไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิต 

 

ดังนั้น ถ้าบริษัทมี Gross Profit Margin ยิ่งสูงก็ยิ่งดี เพราะแสดงว่ามีความสามารถในการทำกำไรได้ดี ควบคุมต้นทุนการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีเกณฑ์วัดว่า Gross Profit Margin ระดับไหนถึงเรียกว่าสูง นักลงทุนควรทำการเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน และประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 

 

กำไรสุทธิ > 0 

 

หมายถึง รายได้สุทธิ จะช่วยบอกมูลค่าผลการดำเนินงานหลังรวมหรือหักรายการทั้งหมดในงบกำไรขาดทุนเรียบร้อยแล้ว เป็นตัวเลขที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนในการประเมินยอดขาย (หรือรายได้ที่มากกว่าค่าใช้จ่าย และเป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

 

  • กำไรสุทธิมากกว่า 0 เท่ากับ บริษัทมีผลการดำเนินงาน กำไรสุทธิ
  • กำไรสุทธิน้อยกว่า 0 เท่ากับ บริษัทมีผลการดำเนินงาน ขาดทุนสุทธิ

 

ในช่วงที่สถานการณ์ไม่มีความแน่นอน นอกจากต้องคัดสรรหุ้นให้รัดกุมแล้ว ควรติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และควรปรับกลยุทธ์เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เพื่อให้พอร์ตลงทุนยังทำกำไรได้สม่ำเสมอ

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats