25 หุ้น ให้ผลตอบแทนราคา “กำไร” ตลอด 1O ปี
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เครื่องมือเบื้องต้นประเภทหนึ่งที่นักลงทุนใช้คัดกรองหุ้นที่ซื้อแล้วถือด้วยความสบายใจ คือ ผลตอบแทนราคา (Price Performance) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นปัจจุบันกับราคาหุ้นก่อนหน้า (ช่วงเวลาที่กำหนด) เช่น 1 เดือน, 1 ปี, 5 ปี, 10 ปี เป็นต้น เพื่อดูว่าราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง
- หากราคาหุ้นปัจจุบัน “สูงกว่า” ราคาหุ้นวันที่ซื้อ หมายความว่า กำไร
- หากราคาหุ้นปัจจุบัน “ต่ำกว่า” ราคาหุ้นวันที่ซื้อ หมายความว่า ขาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่านักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นวันนี้ ย่อมคาดหวังผลตอบแทนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น ราคาหุ้นที่นักลงทุนยอมจ่ายในวันนี้ จึงเป็นราคาที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะได้รับในอนาคต
โดยราคาหุ้นที่ควรจะเป็นหรือราคาเป้าหมายที่ควรจะเป็นเท่าไหร่ สะท้อนจากปัจจัยพื้นฐาน ตั้งแต่เศรษฐกิจโดยรวม อุตสาหกรรม ไปจนถึงผลการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตของบริษัทในอนาคต จากนั้นนักลงทุนจะประเมินว่า สิ่งที่ตัวเองจะได้รับในอนาคต ทั้งในรูปส่วนต่างราคา (Capital Gain) รวมถึงเงินปันผล (Dividend) จะเป็นอย่างไร
พูดง่าย ๆ หากหุ้นตัวไหนได้รับผลบวกจากภาวะเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรมนั้น ประกอบกับมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว ก็มักจะสะท้อนเข้ามาในราคา คือ ราคาปรับขึ้น
ตรงกันข้าม หากหุ้นตัวไหนได้รับผลกระทบเชิงลบจากภาวะเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรมนั้น อาจทำให้ผลการดำเนินงานหดตัวหรือขาดทุน ราคาหุ้นก็จะปรับลดลง
ดังนั้น ราคาหุ้นปรับขึ้นหรือลดลง นอกจากปัจจัยด้านภาพรวมเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ประสิทธิภาพการดำเนินงาน สถานะการเงิน ศักยภาพการเติบโต ยังรวมถึงข้อมูลข่าวสารที่บริษัทประกาศ รายงานผลประกอบการ สภาวะและแนวโน้มตลาด ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกด้วย
ประสิทธิภาพของราคาหุ้นในอดีตไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต และควรพิจารณาควบคู่ไปกับเครื่องมือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคอื่น ๆ เมื่อทำการตัดสินใจลงทุน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเมื่อมั่นใจว่าหุ้นตัวนั้นมีโอกาสเติบโตในระยะยาว และราคาหุ้นมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง คือ Let Profit Run (ซื้อแล้วถือไปเรื่อย ๆ) แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าหุ้นที่ถือนั้น มีโอกาสเติบโตในระยะยาวหรือไม่ ด้วยการดูปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับเป้าหมายการลงทุนของตัวเอง
โดยข้อดีของกลยุทธ์ Let Profit Run ทำให้กำไรเติบโตแบบทบต้นได้ เช่น ซื้อหุ้นราคา 10 บาท เวลาผ่านไป 1 เดือน ราคาปรับเป็น 11 บาท ก็ไม่ขายแต่ถือต่อไปก็จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแบบทบต้นไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามข้อมูลสม่ำเสมอ เพราะเมื่อประเมินว่าหุ้นเต็มมูลค่าแล้วก็ควรขาย เพราะเมื่อหุ้นเต็มมูลค่า ราคาก็มักจะปรับลดลงตามด้วย