หัวจะปวดเวลาเพื่อนขอยืมเงิน ทำยังไงดี?
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
ทุกคนต่างรู้ดีว่าสถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่น่าลำบากใจมาก เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ซึ่งจะมีแนวโน้มกลัวการสูญเสียความสัมพันธ์อยู่แล้ว แต่ถ้ามนุษย์ไม่มีเงินกินข้าว หรือไม่มีเงินสำหรับซื้อปัจจัย 4 ได้เพียงพอก็ลำบากเหมือนกัน
หากลองมาแจกแจงดู จะมีความกลัวเกิดขึ้น 2 แบบพร้อมกัน คือ “กลัวจะมีปัญหาความสัมพันธ์“ และ “กลัวจะมีปัญหาด้านการเงิน” ซึ่งผลลัพธ์ของความกลัวสองอย่างนี้อาจสร้างความสับสน กังวลใจ โกรธ สงสาร หงุดหงิด ผิดหวัง และอารมณ์น่าปวดหัวอีกมากมาย โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ได้เงินคืนตามกำหนด
สิ่งที่แนะนำให้ทำเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้ คือ…
ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของคุณ
ถ้าการเงินของคุณมั่นคง ให้เพื่อนยืมเงินแล้วไม่ลำบาก ก็ตัดสินใจให้ยืมได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้าให้เพื่อนยืมเงินแล้วจะทำให้ตัวเองและครอบครัวมีปัญหาก็ควรคิดให้รอบคอบ หากปัญหาด้านการเงินสำคัญกับชีวิตคุณมากกว่า คุณต้องหนักแน่นในความต้องการของตนเอง แล้วค่อยไปจัดการกับความรู้สึกกลัวที่จะเสียความสัมพันธ์
กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน
ถ้าคุณตัดสินใจให้เพื่อนยืมเงิน คุณต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน เช่น ระยะเวลาในการคืนเงิน หรือจำนวนเงินที่สามารถให้ได้ การทำสัญญาที่มีลายลักษณ์อักษรพร้อมลายเซ็นชัดเจนในตอนที่คุณตัดสินใจให้ยืมเงิน จะช่วยลดความกังวลเวลาที่เรื่องบานปลาย (เพราะอย่างไรก็ยังมีกฎหมายช่วยหนุนหลัง) หรือบางคนอาจตัดสินใจให้เงินในปริมาณที่น้อยกว่าที่เพื่อนขอ แต่เป็นการให้เปล่า ไม่ต้องคืน จะได้ตัดความกังวลใจในการเฝ้ารอเงินคืน
สื่อสารอย่างเปิดเผย
ไม่ว่าจะให้ยืมหรือไม่ การพูดคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ การบอกให้เขารู้ว่าคุณรู้สึกกังวล จะทำให้คุณและเพื่อนเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ที่ไม่ทำให้ใครต้องลำบากใจจนเกินไป
พิจารณาทางเลือกอื่นๆ
ถ้าการให้ยืมเงินไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ ลองเสนอวิธีช่วยเหลือในรูปแบบอื่น เช่น ให้คำแนะนำทางการเงิน ช่วยหาแหล่งเงินทุนอื่น หรือช่วยเหลือด้วยสิ่งอื่นที่คุณมีและสามารถให้ได้โดยไม่ลำบากใจ
รักษาความสัมพันธ์
จำไว้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีไม่ควรขึ้นอยู่กับการเงิน การที่คุณไม่สามารถให้เพื่อนยืมเงินได้ ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นเพื่อนที่ไม่ดี การแสดงความห่วงใย ความเห็นอกเห็นใจด้วยวิธีอื่นๆ นอกเหนือจากการให้ยืมเงินก็อาจสร้างผลดีต่อความสัมพันธ์ได้ ในบางกรณีที่คุณโดนกดดันและต่อว่าจากการที่ไม่ให้ยืมเงิน อาจต้องกลับมาพิจารณาว่าการสื่อสารและการให้เหตุผลของคุณชัดเจนหรือไม่ หากคิดว่าชัดเจนเพียงพอแล้ว อาจต้องมาคิดต่อว่าความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่
สิ่งที่เราต้องคำนึงไว้เสมอคือ “ความเครียดเปลี่ยนนิสัยคนได้” ทำให้คนเลือกทำในสิ่งที่สุดโต่งได้ อย่างไรก็ตาม การรู้จักขอบเขตของตนและรักษาใจกันและกันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม
ขอคำปรึกษาจากมืออาชีพ
หากคุณรู้สึกว่าความรู้สึกนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคุณ การปรึกษานักจิตวิทยาหรือที่ปรึกษาทางการเงินอาจช่วยให้คุณหาทางออกที่เหมาะสมได้
สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ให้เงินกับเพื่อนควรขึ้นอยู่กับความรู้สึกสบายใจของคุณ และความสามารถทางการเงินของคุณ อย่าลืมว่าการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่การดูแลตัวเองก็ไม่ควรถูกละเลยเช่นกัน
ที่มา: พญ. ฉัตรกนิษฐ์ สราญฤทธิชัย จิตแพทย์ Morning Mind Clinic
