×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

7 แผนรับมือ เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องไกลตัว

1,961

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

ยุคนี้อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน ทั้งค่าครองชีพ-หน้าที่การงาน…แต่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะผันผวนแค่ไหน ถ้าเราวางแผนการเงินดี-ใช้เงินเป็น ยังไงก็รอดได้!

 

มาดู 7 แผนรับมือเศรษฐกิจ เตรียมพร้อมชีวิตให้มั่นคง

 

มีเงินสำรองฉุกเฉิน

 

เงินสำรองฉุกเฉิน เหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงเวลาที่คาดไม่ถึง เพราะเมื่อไหร่ที่ชีวิตต้องสะดุด ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน เจ็บป่วย หรือมีค่าใช้จ่ายไม่คาดฝัน การมีเงินสดสำรองไว้ในมือจะช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เศรษฐกิจถดถอย การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมต่างๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป

 

แล้วควรมีเท่าไหร่ดี โดยทั่วไปแล้ว นักวางแผนการเงินแนะนำให้มีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำ แต่ถ้าจะให้สบายใจมากขึ้นควรมีให้ได้ถึง 12 เดือน 

 

เก็บไว้ที่ไหนดีที่สุด ให้เก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงและสามารถถอนได้ง่าย เพื่อให้เงินก้อนนี้พร้อมใช้งานได้ทันทีเมื่อจำเป็น

 

วางแผนงบประมาณ

 

อาจสงสัยว่าเงินหายไปไหนหมดในแต่ละเดือน ซึ่งการที่ไม่รู้ว่าตัวเองใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ถือเป็นกับดักทางการเงินที่ทำให้ควบคุมการใช้จ่ายได้ยากมาก

 

  • เริ่มจากจดบันทึกรายจ่าย 

 

ลองจดทุกอย่างที่ใช้จ่ายในแต่ละวันหรือแต่ละเดือนลงไปในสมุด หรือแอปพลิเคชัน ก็จะเห็นภาพรวมการใช้จ่ายที่ชัดเจนขึ้น และรู้ว่าเงินไหลไปทางไหนบ้าง

 

  • แยกแยะความจำเป็นกับความต้องการ 

 

ให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก เช่น ที่อยู่อาศัย ค่าน้ำ ค่าไฟ อาหาร และค่าเดินทาง ส่วนค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น การกินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ การสมัครสมาชิกที่ไม่จำเป็น หรือการซื้อของที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ควรถูกลดทอนหรือตัดออกไป

 

  • ลองใช้งบประมาณแบบศูนย์ (0) 

 

คือ การวางแผนให้เงินทุกบาททุกสตางค์มีหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่าย การออม การลงทุน หรือการจ่ายหนี้ ให้รายรับลบรายจ่ายเท่ากับศูนย์ วิธีนี้จะช่วยให้เห็นว่าเงินถูกจัดสรรไปอย่างไร และไม่มีเงินเหลืออยู่โดยไม่มีเป้าหมาย

 

ลดค่าใช้จ่าย

 

ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งจำเป็น ลองมองหาช่องทางที่ช่วยให้ประหยัดเงินในแต่ละเดือนได้มากขึ้น

 

  • ตรวจสอบและยกเลิกรายจ่ายประจำที่ไม่จำเป็น 

 

ได้ใช้บริการสมัครสมาชิกต่างๆ ที่เคยสมัครไว้ครบถ้วนหรือไม่ ลองยกเลิกบริการที่ไม่ได้ใช้ หรือลดค่าบริการให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต

 

  • โฟกัส 3 รายการใหญ่ 

 

ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มักจะไปกองรวมกันอยู่ที่ 3 สิ่งหลักๆ ได้แก่ ที่อยู่อาศัย อาหาร และการเดินทาง ลองหาทางลดค่าใช้จ่ายในส่วนเหล่านี้ เช่น การวางแผนทำอาหารเองแทนการซื้อ การใช้ขนส่งสาธารณะ

 

  • ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ประหยัดขึ้น 

 

ลองชะลอการซื้อของชิ้นใหญ่ที่ไม่จำเป็น เปลี่ยนกิจกรรมที่ต้องเสียเงินไปทำกิจกรรมฟรีๆ 

 

สร้างรายได้เพิ่ม

 

การประหยัดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในยามเศรษฐกิจถดถอย การหารายได้เสริมและปกป้องแหล่งรายได้ จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ

 

  • หารายได้เสริม 

 

ลองมองหาโอกาสในการรับจ๊อบฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือทำงานพาร์ทไทม์ที่ถนัด การมีแหล่งรายได้มากกว่าหนึ่งทางจะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินได้

 

  • ลงทุนในตัวเอง 

 

อย่าหยุดเรียนรู้ พัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

 

  • ตรวจสอบการลงทุน 

 

หากมีการลงทุนอยู่แล้ว ลองกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน และหลีกเลี่ยงการขายสินทรัพย์เพราะความตื่นตระหนกจากสถานการณ์ตลาด ให้เน้นเป้าหมายการลงทุนระยะยาวเสมอ

 

เก็บเงินในที่ดอกเบี้ยดี

 

ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การจะหาที่เก็บเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงไปพร้อมกับการรักษาสภาพคล่องเป็นสิ่งสำคัญมากๆ

 

  • บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 

 

นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเงินสำรองฉุกเฉิน เพราะมีความปลอดภัยสูงและถอนได้ง่าย ลองเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ดูว่ามีขั้นต่ำในการฝากหรือมีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือไม่

 

  • เงินฝากประจำ 

 

หากมีเงินก้อนที่ยังไม่มีแผนจะใช้ในระยะเวลาอันใกล้ การฝากประจำก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และยังให้ผลตอบแทนที่แน่นอน

 

  • สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

 

ในช่วงที่ตลาดผันผวน การลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ หรือพันธบัตรรัฐบาล ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินต้นได้

 

ข้อควรระวัง: แม้อัตราดอกเบี้ยสูงจะน่าสนใจ แต่ต้องระวังอย่าลงทุนแบบเสี่ยงเกินไปเพียงเพราะหวังผลตอบแทนสูง เพราะอาจสูญเสียเงินต้นได้ง่ายในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน 

 

กำจัดหนี้ดอกเบี้ยสูง

 

เช่น หนี้บัตรเครดิต ถือว่าอันตรายมาก ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจผันผวน หากรายได้ลดลง หนี้เหล่านี้จะกลายเป็นภาระที่อาจทำให้ติดหล่มทางการเงินได้ การลดหรือปลดหนี้ให้เร็วที่สุดจะช่วยให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น และหายใจได้โล่งขึ้น

 

  • เริ่มจากหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน 

 

มุ่งเป้าไปที่การชำระหนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยโดยรวม

 

  • พิจารณารวมยอดหนี้ หรือโอนหนี้

 

หากมีหนี้หลายก้อน ลองพิจารณารวมยอดหนี้เข้าด้วยกัน หรือโอนหนี้ไปบัตรเครดิตที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและลดดอกเบี้ย

 

  • งดสร้างหนี้ใหม่โดยไม่จำเป็น 

 

สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องหยุดสร้างหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้วงจรหนี้กลับมาซ้ำอีก

 

ตรวจสอบสวัสดิการที่มี

 

ใช้สิทธิประโยชน์จากที่ทำงานให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือโปรแกรมออมเงินฉุกเฉินต่างๆ เช่น ฝากสหกรณ์ของบริษัท 

 

อย่ารอให้วิกฤตมาถึงตัวถึงจะเริ่มลงมือทำ การเริ่มต้นวางแผนวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นก้าวเล็กๆ ก็ตาม จะสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับอนาคตทางการเงินได้

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats