สิ่งต้องทำ...เมื่อชีวิตเจอกฎ Murphy
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หลายคนเริ่มต้นปีหมูแบบหนาวๆ ร้อนๆ หลังจากเห็นกระแสเลิกจ้างหลายระลอกของหลายบริษัทในหลายวงการเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ที่มาเร็วและแรงกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเกิดจากการ Disruption ของเทคโนโลยี หรือเพราะเศรษฐกิจไม่ดีก็ตาม
จากรายงานผลสถานะกองทุนประกันสังคม ไตรมาส 3 ปี 2561 พบว่าคนที่ใช้สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานในปี 2561 (นับจาก ม.ค. – สิ้นสุดไตรมาส 3) อยู่ที่ 151,910 คน เทียบกับปี 2560 ทั้งปีอยู่ที่ 140,273 คน เพิ่มถึง 8.3% ถ้านับถึงสิ้นปี 2561 ตัวเลขคงเพิ่มมากกว่านี้
คนที่ตกงานไม่ทันตั้งตัวก็ว้าวุ่นใจ บางคนอาจยังหางานใหม่ไม่ได้ แถมโชคร้ายกว่านั้น เศรษฐกิจก็ส่งสัญญาณไม่ดี ทำให้ตลาดหุ้นติดลบต่อเนื่อง Passive Income ที่ตั้งความหวังไว้ อย่าว่าแต่ไม่ได้ผลตอบแทนเลย เงินที่ลงทุนก็หายไปเยอะ แถมโชคร้ายกว่านั้น (อีกที) ดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก หนี้บ้านเอย หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลเอย ฯลฯ ที่ดอกเบี้ยลอยตัว ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำไงดี ทำไมถึงได้เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็นขนาดนี้
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงกฎประหลาดกฎหนึ่ง คือ กฎของ Murphy (Murphy’s Law) วิกิพีเดีย ได้อธิบายกฎของเมอร์ฟี ไว้ว่าเป็นภาษิตที่มีการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่า “ทุกสิ่งที่สามารถผิดพลาด จะผิดพลาด” (Anything that can go wrong, will go wrong) ภาษิตนี้มักใช้ในความหมายประชดประชันว่า เหตุการณ์ทั้งหลายมักไม่เป็นไปดังหวังหรือเกิดผิดพลาดได้นั่นเอง
มาคิดๆดูในชีวิตมีหลายอย่างที่เป็นไปตามกฎของ Murphy โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน อย่างเช่น ในวันที่เรานัดพบลูกค้ารายใหญ่ไว้ วันนั้นมักมีเหตุการณ์ให้ไม่ราบรื่น เช่น รถติด คอมพิวเตอร์เสีย เป็นต้น หรือช่วงที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนเรามักเสียชีวิตตอนประกันขาด หรือตอนที่กำลังจะซื้อแต่ไม่ได้ซื้อ เป็นต้น
ถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็มีบางเหตุการณ์ที่เป็นตามกฎของ Murphy และเราสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าก็มี เช่น สำหรับมนุษย์เงินเดือน บริษัทมักจะให้สวัสดิการรักษาพยาบาลทั้งคนไข้นอก และคนไข้ใน แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้ใช้สวัสดิการนี้กัน เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ในวันที่เราเกษียณ เราไม่มีรายได้ ลำพังใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นยังต้องประหยัด แต่ในวัยเกษียณ เราก็มักจะเจ็บไข้ได้ป่วยตามวัย ทำให้เรายิ่งมีปัญหาการเงินมากเข้าไปอีก ซึ่งก็เป็นไปตามกฎของ Murphy เช่นกัน
หรืออย่างเหตุการณ์ในปัจจุบันที่กระแสเลิกจ้างฮอต เศรษฐกิจตกต่ำ แม้ยังไม่เกิดกับเรา แต่ควรมองเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดกับเราได้เช่นกันในอนาคต
ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ และความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์อาจแย่กว่าที่เราคิดตามกฎของ Murphy น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรเกิด ก็ไม่เป็นไร แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ อย่างน้อยเราก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว เหมือนอย่างการทำแผนธุรกิจ ยังต้องมีแผนกรณีเลวร้ายที่สุด ( Worst Case) เตรียมพร้อมไว้ มีการทำ BCP (Business Continuity Plan) คือ แผนงานและวิธีการที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อการเกิดอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ ภาวะฉุกเฉินและ/หรือภัยคุกคามได้โดยไม่ต้องหยุดการดำเนินงาน
