จับตาเงินไหลเข้า หลังต่างชาติแห่ซื้อหุ้นไทย
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. สรุปภาวะตลาดประจำเดือนมกราคม 2562 ว่า ณ สิ้นเดือนมกราคม ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1641.73 จุด เพิ่มขึ้น 5 % จากสิ้นปี 2561 มูลค่าการซื้อขายทั้งตลาดหลักทรัพย์ SET และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพิ่มขึ้น 15.5% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2561 เป็นผลจากผู้ลงทุนต่างประเทศที่กลับมาซื้อสุทธิ 7,300 ล้านบาท จากสิ้นปีที่แล้วขายสุทธิไปถึง 2.87 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเม็ดเงินที่ออกจากตราสารหนี้ระยะสั้นมาสู่ตลาดทุนไทยมากขึ้น ต่างจากปีก่อนที่ไหลเข้าตราสารหนี้ระยะยาวเป็นหลัก
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองว่า เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามามากขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าต่างชาติเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าตราสารหนี้ระยะยาวของไทยมาตลอด เพราะคิดว่าเป็นแหล่งพักเงินที่ดี เพราะจะได้ทั้งดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ดี
ส่วนการประเมินแนวโน้มเงินลงทุนจากต่างชาติที่จะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยปี 2562 นายไพบูลย์ นลินทรางกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ประเมินว่า จะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท หลังจากปี 2561 มีการขายสุทธิเกือบ 3 แสนล้านบาท จึงเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะ การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 150 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง แต่ยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่แนวโน้มกระทิง ที่สำคัญเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเงินไหลกลับเข้ามาตลาดหุ้นไทยแล้วประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับการไหลเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จึงมั่นใจว่าจะมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาอีกหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
ขณะเดียวกัน สภาธุรกิจตลาดทุนไทยยังได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ ที่คาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 116.76 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.07% ถือเป็นครั้งแรกที่ดัชนีกลับมาเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน หากแยกเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ที่ 150 ในเกณฑ์ร้อนแรง นักลงทุนรายบุคคล 89.67 กลุ่มบัญชีหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงที่ 133.33 และกลุ่มสถาบันในประเทศลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว 118.18
