จบสงครามการค้าดันหุ้นโลกพุ่ง 5-1O%
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ความไม่ลงรอยทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนได้สร้างความผันผวนแก่ตลาดหุ้นโลกอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยทั้งสองประเทศได้พยายามเจรจามาหลายครั้งเพื่อหาจุดยืนที่สามารถยอมรับได้ ซึ่งช่วงวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์นี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังจีนเพื่อเจรจาทางการค้าอีกครั้ง
ล่าสุด ซิตี้ กรุ๊ป ได้เปิดเผยวิเคราะห์แนวโน้มผลการเจรจาที่เป็นไปได้ และผลกระทบที่จะเกิดต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ 3 กรณี ได้แก่
Bull Case (มีความเป็นไปได้ 5%)
ในกรณีนี้หมายความว่า สหรัฐฯ และจีน บรรลุข้อตกลงทางการค้าแบบเบ็ดเสร็จ มีการลดอัตราภาษีศุลกากรกลับไประดับเดิม สหรัฐฯมีจุดยืนต่อจีนผ่อนคลายลง กรณีนี้จะรวมถึงการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดการขาดดุลทางการค้า และจีนให้คำมั่นว่าจะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ และเปิดตลาดลงทุนให้กับนักลงทุนอเมริกันมากขึ้น
หากผลการเจรจาออกมาแบบนี้ก็จะส่งผลบวกต่อตลาดโลก เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าของสองมหาอำนาจลดลง
ซิตี้ กรุ๊ป คาดว่า จะส่งผลบวกต่อหุ้นวัฏจักรและจะดันให้ตลาดหุ้นโลกพุ่งขึ้นประมาณ 10% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ตลาดโภคภัณฑ์และบรรดาตลาดเกิดใหม่จะได้อานิสงส์เช่นกัน โดยคาดว่าราคาถั่วเหลือง ธัญพืช ทองแดง และน้ำมัน จะปรับตัวดีขึ้น
Base Case (มีความเป็นไปได้ 55%)
กรณีหมายถึงจีนจะให้คำมั่นลดการขาดดุลการค้าสินค้าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2563 พร้อมนำเข้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากสหรัฐฯมากขึ้น รวมถึงจีนอาจสัญญาว่าจะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญามากขึ้น และลดความสำคัญของแผน Made in China 2025
กรณีนี้จะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายชะลอการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรพร้อมเดินหน้าเจรจาหาข้อตกลงถาวรต่อไป
หากผลออกมาแบบนี้จะส่งผลดีต่อตลาดเช่นกัน โดยจะดันตลาดหุ้นโลกให้ปรับขึ้นประมาณ 5% ภายในสิ้นปีนี้ และส่งผลดีพอประมาณต่อราคาถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรและโลหะบางประเภท และส่งผลกระทบน้อยต่อกลุ่มพลังงาน
Bear Case (มีความเป็นไปได้ 40%)
ในกรณีที่แย่ที่สุดคือทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ก่อนเส้นตายวันที่ 2 มีนาคม ที่สหรัฐฯ จะขึ้นอัตราภาษีศุลกากรจาก 10% เป็น 25% สำหรับสินค้าจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากการเจรจาออกมาในรูปนี้จะส่งผลลบต่อการค้าโลกและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกด้วย ซิตี้ประเมินว่าจะกดให้ตลาดหุ้นโลกร่วงลง 10-15% ในระยะสั้น