Smartwatch โตแรง รับเทรนด์สุขภาพ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ต้องยอมรับว่า smartwatch ได้เข้ามามีอิทธิพลในการใช้ชีวิตของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะนอกจากจะเป็นนาฬิกาบอกเวลาแล้ว ยังสามารถรับสาย โทรออก ฟังเพลง วัดชีพจร วัดก้าวเดิน ฯลฯ ซึ่ง ฟังก์ชันเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นาฬิกาทั่วไปทำไม่ได้
ยอดขายโต-ชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม
การเติบโตของ smartwatch ไม่ได้กระทบกลุ่มนาฬิกาทั่วไป เพราะผู้บริโภคมักจะซื้อ smartwatch เป็นนาฬิกาเรือนที่ 2 หรือ 3 มากกว่า เพื่อใช้ฟังก์ชัน เช่น วัดอัตราการเต้นหัวใจ อัตราการวิ่ง และฟังเพลง ระหว่างที่ออกกำลังกาย ความนิยมดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายโตขึ้น 100% และกินส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 10% ของตลาดนาฬิกาโลกที่มีมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
Apple Watch ครองอันดับ 1 ตลาดโลก
เมื่อเจาะลึกไปในตลาด smartwatch ข้อมูลจาก Counterpoint Research ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ Apple Watch ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ครองส่วนแบ่งในตลาด 35.8% รองลงมาคือ Samsung มีส่วนแบ่งการตลาด 11.1% เพิ่มจากไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่ง 7.2%
อุตสาหกรรมนาฬิกาโลกยังเติบโต
ส่วนแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมนาฬิกาทั่วโลก ข้อมูลจากรายงานของ BRANDZ บริษัทวิจัยทางการตลาดและสื่อสารการตลาดระดับโลก และ งานบาเซิล เวิลด์ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านาฬิกายิ่งใหญ่ของโลก ประเมินว่า ปีนี้ ตลาดนาฬิกาโลกจะขยายตัวเพียง 3 % โดยสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ส่งออกนาฬิการายใหญ่ที่สุดของโลก มูลค่าประมาณ 2.1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 6.7 แสนล้านบาท และมีเอเชียเป็นตลาดหลัก โดยประเทศไทยเป็นผู้นำเข้านาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์มากที่สุดเป็นอันดับ 15
ค่ายนาฬิกาเร่งปรับตัว
ผู้นำเข้านาฬิกาแบรนด์ดังจากทั่วโลกอย่างนายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบัน แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาต่างๆ พยายามปรับตัวอย่างหนัก โดยการเพิ่มฟังก์ชันของ smartwatch ในนาฬิกาทั่วไปมากขึ้น หวังชิงส่วนแบ่งการตลาด ในยุคที่กระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง
เจาะตลาดนาฬิกาเมืองไทย
สำหรับตลาดนาฬิกาในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ นาฬิการะดับลักชัวรี่ ราคา 500,000 บาท ขึ้นไป สัดส่วน 20% นาฬิกาไฮเอนด์ 100,000 -500,000 บาท สัดส่วน 34.85% นาฬิกามิดเอนด์ 20,000-100,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30.62% และนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ 5,000 – 20,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 14.53% โดยปัจจุบันในกลุ่มลักชัวรี่และไฮเอนด์ยังเติบโตดีเพราะผู้บริโภคเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูงนิยมซื้อเพื่อสะสม