หนึ่งในคำถามที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ของผู้ลงทุน เวลาเลือกระหว่างการลงทุนด้วยตัวเองกับลงทุนผ่านกองทุนรวมก็คือ “ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น” คาดไม่ถึงว่าปัจจุบันกองทุนรวมบ้านเราจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายสูงถึง 3.30-5.22% ต่อปี (ในกรณี 20 อันดับสูงสุด) และนี่คือชื่อของกองทุนรวมเหล่านั้น
เวลาเราคิดถึงวิธีการ “ประหยัด” มักจะคิดถึงเรื่องใหญ่ๆ เช่น ปีนี้ตัดใจไม่ไปเที่ยวเมืองนอก ไม่ซื้อรถคันใหม่ดีกว่า แต่มีหลายๆ คนที่ทำตามแล้ว เงินในกระเป๋าก็ยังรั่วไหลไม่หยุด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
กองทุนรวมตลาดเงินแทบจะไม่ต่างไปจากการฝากเงินเอาไว้กับเงินฝากออมทรัพย์ และถ้าดูกันลึกๆ แล้วการเก็บเงินเอาไว้กับกองทุนรวมตลาดเงินดูดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องผลตอบแทน
นอกจากชื่อบริษัท ทำธุรกิจอะไร ชื่อย่อหุ้น หรือชื่อผู้บริหารแล้ว ยังมีอีกหลายคำถามที่นักลงทุนต้องรู้และเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นนั้นๆ
จุดสังเกตที่นักลงทุนต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวม ก็คือ อัตราส่วนหมุนเวียนการลงทุนของกองทุน หรือ Portfolio Turnover Ratio (PTR) ที่จะบอกว่ากองทุนรวมนั้นมีการบริหารพอร์ตลงทุนเป็นอย่างไร
นี่คือ 10 เคล็ดลับความรวยของ Bill Gates ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้กับการดำเนินชีวิต ที่เป้าหมายอาจมากกว่าแค่พิชิตการเป็น “เศรษฐี”
อย่าลืมว่าถ้า “การลงทุน มีความเสี่ยง” การลงทุนใน “กองทุนรวม” ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ก่อนลงทุน “กองทุนรวม” สักกอง จึงต้องเลือกให้ดี
คนจำนวนไม่น้อยมักนำกองทุนรวมหุ้น เทียบกับ เงินฝาก เพราะตนเองถอนเงินฝากมาซื้อกองทุนรวมหุ้น…ในช่วงที่มีกำไรก็ดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่ครั้นเมื่อขาดทุน ก็พร่ำบ่นว่า “กองทุนรวมหุ้น สู้เงินฝากไม่ได้
นับตั้งแต่เศรษฐกิจไทยขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป คนไทยเป็นป่วยเป็น “โรคทรัพย์จาง” หรือ “Moneyphilia” และมีท่าทีว่าโรคดังกล่าวกำลังระบาดไปทั่วประเทศ
มีคำกล่าวที่ว่า “ที่ใดภาษีแพง ที่นั่นย่อมมีการวางแผนภาษี” ก็เพราะในแต่ละปีที่เราต้องทำงานหนัก แต่ถ้าวันดีคืนดี มีคนที่เราไม่รู้จัก มาขอเงินที่เราต้องใช้หยาดเหงื่อแรงกายแลกมาดื้อๆ เราจะให้มั๊ย? คำตอบก็คือ…ไม่ให้!
เมื่อเราวางแผนการใช้เงิน ก็จะทำให้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปได้ ทำให้เรามีเงินเก็บสำหรับเป้าหมายในอนาคต มีเงินสำรองฉุกเฉิน หรือแม้แต่ลำดับความสำคัญของการออมเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนรวย ก็คือ คนที่มีสินทรัพย์ลงทุนอย่างน้อย 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 105 ล้านบาท มีแนวคิดการใช้เงินที่คล้ายๆ กันหลายข้อ โดย U.S. Trust ได้สำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนเกือบ 700 คน ก่อนสรุปพฤติกรรมหลักๆ ที่คล้ายกัน 5 ข้อดังนี้
ผลสำรวจของ U.S. Trust Insights on Wealth and Worth ในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ที่มีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 104 ล้านบาทขึ้นไป 77% สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากคนชั้นกลาง หรือฐานะแย่กว่านั้น และ 19% เติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน