ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 16 มิ.ย. 6O
“ทรัมป์” โต้เดือด! เหตุจากการปลดผอ.FBI
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังตกเป็นข่าวว่าถูกที่ปรึกษากฎหมายพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสอบสวน ว่าอาจมีพฤติการณ์ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม สืบเนื่องจากการปลด เจมส์ โคมีย์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ
โดยล่าสุดได้แสดงอาการโกรธกริ้วผ่านทางทวิตเตอร์ในตอนเช้าตรู่วันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.) ภายหลังปรากฏรายงานข่าวที่ว่า โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษของกระทรวงยุติธรรมซึ่งกำกับดูแลการสอบสวนคดีรัสเซียวุ่นเลือกตั้งอเมริกัน กำลังพุ่งเป้าตรวจสอบประมุขทำเนียบขาวว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่าย “ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม” หรือไม่
คนไทยใช้มือถือ 90 ล้านเบอร์ หนุนโอกาสค้าออนไลน์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 90 ล้านเครื่อง และในจำนวนนี้เป็นสมาร์ท โฟนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 46 ล้านเครื่อง และยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กถึง 35 ล้านราย มากเป็นอันดับ 3 ของโลก
แสดงให้เห็นโอกาสในการค้าขายสินค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือมากกว่า 10% ในแต่ละปี โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 2.4 ล้านล้านบาทต่อปี
จ่อชงบอร์ดอีอีซีดันไปรษณีย์ไทยขึ้นฮับ “โลจิสติกส์”
กระทรวงดีอีเร่ง “ปณท” ปั้นโลจิสติกส์ฮับ รับแผนอีอีซี เล็งขยายเป็นศูนย์กระจายสินค้า หวังเป็นเขตปลอดภาษีนำเข้า-ส่งออกประเทศที่ 3 หารือศุลกากรปลดล็อกกฎหมาย คาด 23 มิ.ย.นี้ เข้าบอร์ดพิจารณา พร้อมร่นยุทธศาสตร์องค์กรแผนเร่งด่วน 3 ปี หวังสู่ไปรษณีย์ 4.0 ปี 2563
ชวนใช้”บัตรเดบิต” แบงก์ตั้งกฎรูดผิดคืนเงินใน 1 วัน
ธนาคารไทย เปิดเผยว่า จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ Nationale-Payment ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการโครงการที่ 1 ระบบพร้อมเพย์ เพื่อเป็นทางเลือกที่จะเพิ่มความสะดวกการรับเงินและโอนเงินด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าบริการโอนเงินแบบเดิม ในปีนี้จะเร่งโครงการที่ 2 ขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บัตรเดบิตกว้างขวางขึ้น โดยมีต้นทุนการชำระเงินด้วยบัตรลดลง ลดภาระร้านค้าที่รับบัตร เพิ่มอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แพร่หลายมากขึ้น
อุตสาหกรรมเครื่องดื่มส่อซบ หลังเจอภาษีน้ำหวาน
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยปีนี้ คาดจะมีอัตราการเติบโตทรงตัวจากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มใหม่ตามปริมาณน้ำตาล เพราะหลังจากภาครัฐประกาศจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือภาษี น้ำหวานวันที่ 16 ก.ย.นี้ ผู้บริโภคจะเกิดอาการช็อก เนื่องจากเกรงว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้ชะลอการซื้อไป 3-6 เดือน
ที่มา: ไทยโพสต์, ผู้จัดการ, ไทยรัฐ, โพสต์ทูเดย์
ภาพ: h3.googleusercontent