×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

อยากเก็บเงินเก่ง ทำตามนี้

7,720

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

1.ทำงบการเงินส่วนบุคคล และวางแผนการใช้จ่าย

เพราะเมื่อเราวางแผนการใช้เงิน ก็จะทำให้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปได้ ทำให้เรามีเงินเก็บสำหรับเป้าหมายในอนาคต มีเงินสำรองฉุกเฉิน หรือแม้แต่ลำดับความสำคัญของการออมเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการทำงบการเงินส่วนบุคคลก็ไม่ยาก แค่แยกรายรับ ว่ามีอะไรบ้าง เงินเดือน โบนัส รายได้เสริม รวมกันให้หมด เสร็จแล้วก็มาดูฝั่งรายจ่ายว่ามีอะไรบ้างในแต่วัน-แต่ละเดือน ทั้งค่าอาหาร เสื้อผ้า บ้าน รถ การศึกษา หรือค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดส่วนตัว พอประมาณทั้ง 2 ฝั่งได้แล้วก็ลองเอามาบวกลบกันดู ถ้าต้องใช้มากกว่าที่หามาได้ จะได้สามารถลดทอนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไป

 

2.ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้

การตั้งเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้จะทำให้เรารู้ว่าต้องออมเท่าไหร่ และนานแค่ไหน จึงจะไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการ อย่าลืมว่าจำนวนเงินที่คุณขาด นั่นคือเอาเป้าหมายลบกับที่มีอยู่ในวันนี้ ต้องไม่เกินกว่ากำลังวังชาของคุณที่จะเก็บออมหรือลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น

 

3.ใส่ใจกับ Lifestyle Inflation ของตัวเอง

คนส่วนใหญ่มักจ่ายมากขึ้นเมื่อรายได้ของเขาสูงขึ้น คนบางคนตอนมีรายได้ 30,000 บาทอาจใช้แค่ 15,000 บาท (หรือ 50%) แล้วเหลือเก็บอีก 15,000 บาท แต่พอรายได้เพิ่มเป็น 50,000 บาท อาจใช้ถึง 35,000 บาท โดยคิดว่าเหลือเก็บเท่าเดิมคือ 15,000 บาท  แต่จริงๆ แล้ว กลับคิดเป็นสัดส่วนของค่าใช้จ่ายถึง 70% เหลือเก็บแค่ 30% เท่านั้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากกว่ารายได้ที่เพิ่มเรียกว่าเป็น Lifestyle Inflation นั่นเอง ดังนั้นต้องตัดสินใจและคำนวณให้ดีว่าเมื่อรายได้เราสูงขึ้นจะใช้มากขึ้นแค่ไหน หรือเก็บมากขึ้นอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนการออมในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

 

4.เข้าใจความต่างระหว่าง “จำเป็น” กับ “ต้องการ”

“จำเป็น” คือ ต้องใช้เพื่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เสื้อผ้า หยูบยา การเดินทาง แต่ถ้าแค่ “ต้องการ” แล้วล่ะก็เป็นแค่สิ่งที่เราอยากได้…แต่ไม่ได้สำคัญมากมายกับการดำรงชีวิต ซึ่งเราต้องแยกให้ออกเพื่อจะได้บริหารจัดการค่าใช้จ่ายและเงินออมของตนเองได้

 

5.กระจายเงินออมไปอยู่ในสินทรัพย์ที่เหมาะกับเป้าหมาย

ในเมื่อตัดสินใจจะพัฒนาทักษะการออมของตัวเองแล้ว การเก็บเงินไว้ธนาคารอาจง่ายต่อการถอนมาใช้ ดังนั้นจึงควรกระจายเงินออมของเราไปยังที่ที่เหมาะกับเป้าหมาย เช่นถ้าเป็นการออมระยะยาวเพื่อเป้าหมายเกษียณ อีกนานกว่าจะใช้เงิน ก็ควรหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากขึ้น และลงทุนในระยะยาวเป็นต้น ซึ่งนี่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายเงินออมได้มากขึ้นด้วย

 

#WealthMeUp

 

Related Stories

amazon anti fatigue mats