"ออมหุ้น" เรื่องที่มือใหม่ควรรู้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ลงทุนหุ้นใครว่ายาก เริ่มต้นเดือนละ 1,000 บาท ก็สามารถเป็นนักลงทุนหุ้นได้ไม่ยาก ผ่าน “บัญชีออมหุ้น” ซึ่งเป็นบริการลงทุนหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ตามเงื่อนไขแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 25 บล. ที่มีบริการนี้
เพื่อให้เลือก บล. ที่โดนใจที่สุด ปัจจัยที่นักลงทุนควรพิจารณา ดังนี้
- เงินลงทุนขั้นต่ำ
ปัจจุบันมีอยู่ 6 บล. ที่เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,000 บาท ส่วน บล.อื่นๆ เริ่มต้นที่เดือนละ 2,000 – 10,000 บาท
- จำนวนหุ้นขั้นต่ำ
บาง บล. ใช้การซื้อหุ้นแบบ board lot ที่ต้องลงทุน lot ละ 100 หุ้น เหมือนการลงทุนหุ้นปกติ ส่งผลให้จำนวนเงินลงทุนในแต่ละเดือนอาจต่างกันมาก บาง บล. ใช้แบบ odd lot ที่ลงทุนครั้งละกี่หุ้นก็ได้ ส่งผลให้จำนวนเงินลงทุนในแต่ละเดือนมีความใกล้เคียงกัน
- หุ้นที่เลือกได้
อย่างหุ้นที่อยู่ในดัชนีที่กำหนด เช่น SET 50 SET100 SETHD หรือหุ้นอื่นที่ บล. กำหนดไว้
- ความถี่ที่ลงทุน
บาง บล. มีให้เลือกเป็นแบบรายเดือนเพื่อสร้างวินัยการลงทุนให้สอดคล้องกับเงินเดือน หรือแบบรายสัปดาห์/ไตรมาสเพื่อเป็นการเฉลี่ยต้นทุนการลงทุน
- ค่าธรรมเนียม
ปัจจุบันมีตั้งแต่ 0.065% ไปจนถึง 0.3%ของมูลค่าที่ลงทุน
เมื่อเลือก บล. ที่จะเปิด “บัญชีออมหุ้น” ได้แล้ว สิ่งต่อมาคือการเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตนเอง โดยเริ่มจาก
เลือกเงินที่เก็บออม
คนวัยทำงานควรเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 10%-20%ของรายได้ในแต่ละเดือน เพื่อเป็นการสะสมความมั่งคั่งให้แก่ตนเอง เช่น นาย A เงินเดือน 30,000 บาท อย่างน้อยๆ ควรเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 3,000 บาท แต่ในจำนวนนี้ก็ไม่ใช่ว่าควรนำไปลงทุนหุ้นทั้งจำนวน
เลือกเงินที่ลงทุน
ก่อนลงทุนใดๆ ควรเช็กเงินฝากที่มีก่อนว่า มีเพียงพอกับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนข้างหน้าเพื่อเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินหรือไม่ เช่น นาย A หากยังมีเงินสำรองไม่เพียงพอ เงินที่เก็บออมเดือนละ 3,000 บาทนั้น ควรนำไปเก็บในเงินฝากก่อน ยังไม่ควรนำไปลงทุน
แต่หากนาย A มีเงินสำรองเพียงพอแล้ว ควรแบ่งเงินแค่บางส่วนจากเดือนละ 3,000 บาท ไปลงทุนในหุ้น เช่น หากรับความเสี่ยงได้สูงมาก อาจลงทุนในหุ้น 80% หรือเดือนละ 2,400 บาท แต่หากรับความเสี่ยงได้ปานกลาง อาจลงทุนในหุ้น 40% หรือเดือนละ 1,200 บาท และเงินส่วนที่เหลือทุกเดือนควรนำไปลงทุนกองทุนตราสารหนี้ เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
เลือกหุ้นที่ลงทุน
แม้ “บัญชีออมหุ้น” ส่วนใหญ่จะเลือกลงทุนได้เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นที่ บล. คัดสรรมาอย่างดีแล้ว แต่การลงทุนหุ้นนอกจากเลือกหุ้นดีแล้วยังควรเลือกให้กระจายในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมด้วย (ปัจจุบันมีอยู่ 8 กลุ่มอุตสาหกรรม) เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่บางช่วงเวลาหุ้นบางกลุ่มอาจขาดทุน ในขณะที่บางกลุ่มมีกำไร ผลตอบแทนโดยรวมจะได้ไม่ผันผวนมากนัก
เงินน้อยใครว่าลงทุนไม่ได้ ยิ่งเงินน้อยยิ่งต้องลงทุน เพราะต่อไปเงินจะได้เติบโตเป็นเงินก้อนโตให้กับเรา แต่ที่สำคัญต้องรู้จักประมาณตน ลงทุนได้แต่อย่าทุ่มสุดตัว แบ่งสัดส่วนไปเก็บในเงินฝากและกองทุนตราสารหนี้บ้าง