อยาก ‘หยุดคิดมาก’…ต้องทำตามนี้!
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ไม่มีใครอยากคิดมากใช่หรือไม่? ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราก็อยากให้มันผ่านไปเลย ไม่ต้องการที่จะเก็บมาคิดให้ปวดหัว แต่ ‘ภาวะคิดมาก’ หรือ ‘Overthinking’ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ อย่างการนึกถึงอดีต หรือกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะทำให้เราคิดมากได้
มีงานวิจัยพบว่า การคิดมากทำให้เรามีพลังงานลดลง จำกัดความคิดสร้างสรรค์และทำให้เกิดปัญหาในการนอนหลับได้
Jenny Maenpaa นักจิตบำบัดจึงได้แนะนำ 3 วิธีที่ทำให้เราหยุดคิดมาก และเป็นวิธีที่เธอเองใช้เป็นประจำ
การปรับมุมมองเชิงบวก
หลายคนอาจสับสนกับ ‘การคิดบวก จนเป็นพิษ’ (Toxic Positivity) ที่เป็นการให้คิดบวกเข้าไว้ ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะแย่แค่ไหนก็ตาม ในทางกลับกันการปรับมุมมองเชิงบวก หรือ Positive Reframing คือการรับรู้และยอมรับเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วพยายามมองในอีกหลาย ๆ แง่มุม ลองมองในอีกมุมที่เป็นบวกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เราเจอเรื่องดี ๆ ในเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ปัญหาได้
อย่างเช่น คุณไม่ชอบงานที่ทำ งานหนัก รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจย่ำแย่ การระบายมันออกมาอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่จะรู้สึกดีเพียงชั่วครู่เท่านั้น และคุณก็จะกลับมาคิดมากอีกครั้ง ดังนั้นควรจัดรูปแบบของความคิดใหม่ ลองดูว่าสิ่งที่เป็นปัญหาคืออะไร อะไรคือความท้าทายที่เกิดขึ้น และหลังจากนั้นลองดูว่าสามารถแก้ปัญหาในแต่ละส่วนได้อย่างไรบ้าง เราจะได้เข้าใจและยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้จริง
จดความคิดแย่ ๆ ลงในกระดาษ
เมื่อคุณอยู่ในอารมณ์โกรธหรือโมโห อาจจะทำในสิ่งที่ไม่ดีลงไปได้และทำให้เสียใจภายหลัง นักจิตบำบัดได้แนะนำว่า ให้จดความคิด ความรู้สึก ลงไปก่อนและรออย่างน้อย 1 วัน หรืออาจจะ 2-3 ชั่วโมง ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วน ก่อนที่เราจะตอบสนองหรือทำอะไรลงไปอย่างฉับพลัน
อย่างเช่น คุณได้รับ E-mail เกี่ยวกับงานที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจากลูกน้องของคุณ และคุณกำลังอยู่ในอารมณ์โมโห–โกรธ ถ้าคุณตอบสนองในทันที อาจทำให้พูดหรือทำในสิ่งที่ไม่ควรลงไปได้และต้องมาเสียใจภายหลัง และนั่นจะยิ่งทำให้คุณคิดมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นจึงควรเขียนความคิดลงไปก่อนในช่วงที่คุณยังโมโห และรอเวลาผ่านไป จะทำให้คุณค่อย ๆ ใจเย็นขึ้น แล้วค่อยกลับมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ฝึกแสดงความขอบคุณ
ในทางจิตวิทยานั้น การแสดงความขอบคุณ จะทำให้มีความสุขมากขึ้น เพราะในแต่ละวันมีทั้งเรื่องร้ายและดีเกิดขึ้น เราควรมองหาเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและชื่นชมอย่างจริงใจ และฝึกแสดงความขอบคุณที่เป็นเรื่องเฉพาะมากขึ้น
อย่างเช่น แทนที่จะรู้สึกขอบคุณที่ตัวเองมีสุขภาพดี เป็นการรู้สึกขอบคุณที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่ปวดหลัง หรือรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตื่นขึ้นมาแล้วมีเวลาออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยให้โฟกัสอยู่กับปัจจุบันมากขึ้นแทนที่จะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
และในวันพรุ่งนี้ก็อาจจะยังรู้สึกขอบคุณที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่อาจจะเป็นเรื่องที่เราผ่านงานที่แสนยากลำบากมาได้
และนี่เป็น 3 วิธีที่จะช่วยให้เราหยุดคิดมากได้ ลองเริ่มทำกันวันละนิด แล้วจะช่วยให้ ภาวะคิดมาก ค่อย ๆ ลดลงได้ และมีพลังในการใช้ชีวิตในแต่ละวันมากขึ้น
