เมื่อมนุษย์เงินเดือนยุคใหม่ ควรมีรายได้มากกว่า 1 ทาง
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
รายได้ทางเดียวอาจไม่พออีกต่อไป…’รายได้เสริม’ ตัวช่วยสำคัญที่เติมความมั่นคงให้การเงินของคุณ
ยุคเศรษฐกิจไม่สู้ดี รายได้ประจำจากเงินเดือนแม้ดูมั่นคง แต่อาจไม่เพียงพอใช้จ่ายประจำวัน หรือเหลือเก็บมากพอกับเป้าหมายอนาคตที่ต้องการ การมีรายได้เสริมหรือรายได้หลายทาง เป็นทางเลือกช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงินได้
ความต่างของมนุษย์เงินเดือนยุคใหม่ จากยุคเดิม
- ยืดหยุ่นกว่า ทั้งเวลาและสถานที่
หลายองค์กรทำงานแบบ Work form Anywhere หรือ Hybrid ที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ไม่ต้องลงเวลางาน 8.30-17.30 น. ขอแค่ส่งงานและเข้าประชุมตามกำหนดก็เพียงพอ ทำให้สามารถจัดสรรเวลาทำงานเสริมโดยไม่ขัดกับกฎหรือเอาเปรียบองค์กรได้ เช่น ขายของออนไลน์ รับจ้างทำของ หรือ Live บน Social Media
- เทคโนโลยีและความสะดวก ที่มากกว่า
งานเสริมบางอย่างทำได้บน Application บน Smart Phone เพียงเครื่องเดียว การผลิตและการทำงานอยู่บนออนไลน์ ทำให้แม้ตัวอยู่บ้านก็สามารถทำได้ทั้งงานประจำและงานเสริม ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- แหล่งความรู้ เข้าถึงง่ายกว่า
แหล่งข้อมูลการสร้างรายได้ ไม่ว่างานเสริมหรือการลงทุนสร้างผลตอบแทน ก็หาได้ไม่ยาก ทั้งหน่วยงานที่น่าเชื่อถือและเหล่ากูรูแต่ละสายอาชีพ ก็ออกมาแชร์ความรู้และประสบการณ์อย่าง
Checklist ก่อนเริ่มหารายได้เสริม
- ความชอบ: การทำในสิ่งที่ชอบ ช่วยให้มีความสุขกับงานเสริมที่ทำ ไม่เหนื่อยหรือท้อง่ายๆ เช่น ชอบแต่งตัวก็เลือกขายสินค้าแฟชั่น
- ทักษะ/ประสบการณ์: ทักษะที่คนทั่วไปไม่มี สามารถแปลงเป็นงานเสริมเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบได้ เช่น มีทักษะสอนก็เลือกทำคอร์สสอนแต่งหน้าออนไลน์
- เวลา: หากว่างเฉพาะเสาร์อาทิตย์ก็อาจเลือกเปิดร้านขายหรือส่งออเดอร์เฉพาะเสาร์อาทิตย์ หากเวลาว่างไม่แน่นอนอาจเลือกงานที่สต็อกเพื่อรอขายได้ เช่น งานฝีมือ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า
- เครื่องมือ/สถานที่: เช่น มีบ้านในเขตชุมชน อาจเลือกเปิดบ้านชั้น 1 เป็นร้านขายของ หากมีกล้องถ่ายรูปอาจเลือกรับงานถ่ายรูปตาม Event
จัดสรรเงิน 4 กอง เพื่อความมั่นคงทางการเงิน
ชีวิตในแต่ละปี มีได้ไม่เกินวันละ 24 ชั่วโมง x 365 วัน อยู่ที่จัดสรรเวลามาทำงานเสริมได้แค่ไหน ให้ไม่กระทบกับงานประจำและสุขภาพ จึงควรให้เงินส่วนหนึ่งไปทำงานเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางโดยเราไม่ต้องออกแรง นอกจากลงทุนแล้ว ควรจัดสรรเงินรวมอย่างน้อย 4 ส่วนดังนี้
- ใช้จ่ายส่วนตัว: เพื่อกินอยู่ ซื้อของใช้ส่วนตัว และสังสรรค์กับเพื่อนฝูง โดยควรไว้ในเงินฝาก e-Savings ที่ถอน/โอนคล่องตัว แต่ดอกเบี้ยสูง
- ต่อยอดงานเสริม: โดยต้องแยกจากเงินใช้จ่ายส่วนตัว เพื่อควบคุมวินัยไม่ให้เงินจมไปกับงานเสริมเกินไป โดยควรไว้ในเงินฝาก e-Savings ที่คล่องตัว
- สำรองเผื่อฉุกเฉิน: 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน โดยควรไว้ในเงินฝาก e-Savings, เงินฝากประจำ, กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น T+1
- ต่อยอดให้งอกเงย: นำไปสร้างรายได้เสริม แบบไม่ต้องออกแรงเพิ่ม เช่น
- พันธบัตร/หุ้นกู้ ที่มีประกาศดอกเบี้ยอัตราที่แน่นอนตามสัญญา ตราบเท่าที่ผู้ออกยังคงสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้
- หุ้นปันผล ที่มักจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอกว่าหุ้นสามัญทั่วไป
- กองทุน Term Fund ที่มีประมาณการผลตอบแทนให้ทราบตั้งแต่วันที่ลงทุน โดยมีระยะเวลาลงทุนที่ชัดเจน เช่น 6 เดือน 12 เดือน
- กองทุนผสมหรือกองทุนหุ้น ที่แม้ผันผวนสูง แต่ระยะยาว 5 ปีขึ้นไป มักให้ผลตอบแทนที่ดี
- กองทุนลดหย่อนภาษี (เช่น ThaiESG, RMF) ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเหมือนกองทุนทั่วไป และช่วยลดค่าใช้จ่าย หรือเพิ่มรายได้จากเงินคืนภาษี หลังยื่นภาษีช่วงต้นปีถัดไปได้
ชีวิตเราต้องมีรายได้มากกว่า 1 ทาง ไม่ใช่เพียงเพราะให้มีเงินเก็บมากขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากการพึ่งพารายได้ทางเดียว และสร้างความมั่นคงทางการเงินจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจปัจจุบัน
