×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

1O หุ้นราคาต่ำกว่า 5 บาท พื้นฐานแจ่ม

47,253

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

เมื่อนึกถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก อาจมองถึงหุ้นที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงด้วยเช่นกัน เพราะเป็นหุ้นที่มีราคาเหวี่ยงค่อนข้างแรง

 

แต่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็ยังไดรับความนิยมจากนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หุ้นกลุ่มนี้จะมีการซื้อขายคึกคัก เพราะมองว่าจะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะฟื้นตัวตามภาพรวมของเศรษฐกิจ

 

โดยการเข้ามาซื้อขายมักจะอยู่ในลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อหากำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital gain) ดังนั้น การตัดสินใจจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพื่อลดความเสี่ยง

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กไม่ได้มีความเสี่ยงสูง ๆ เสมอไป ถ้าวิเคราะห์ให้ละเอียด อาจพบเพชรในตมที่สร้างผลตอบแทนให้ได้อย่างงดงาม โดยปีเตอร์ ลินช์ นักลงทุนระดับโลกกล่าวว่า “การกระจายการลงทุนไปในหุ้นโตเร็วเป็นทางเดียวที่ช่วยให้พอร์ตการลงทุนชนะตลาดได้”

 

ถ้านักลงทุนมีแต่หุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นกลุ่มนำตลาดและเติบโตช้า ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนย่อมใกล้เคียงกับตลาด ถึงแม้นิยามของหุ้นโตเร็วอาจไม่ได้หมายความว่าเป็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเสมอไป แต่ปีเตอร์ ลินซ์ ก็ยอมรับว่าหุ้นโตเร็วมักหาได้จากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก

 

สำหรับการคัดกรองหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่น่าสนใจและลงทุนแล้วลดความเสี่ยงลงได้ เริ่มจากมีกำไรสุทธิเป็นบวกตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (2559 – 2563), P/E Ratio ไม่เกิน 30 เท่า, PEG Ratio ไม่เกิน 1 เท่า, อัตราเงินปันผลตอบแทนเป็นบวก

และราคาหุ้นไม่เกิน 5 บาท

 

หากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ไว้วางใจได้ในระดับหนึ่งว่าปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีโอกาสเติบโตที่ดี ผลที่ตามมา คือ ลดผลขาดทุนลงไปได้

 

 

หมายเหตุ:

 

  • PE Ratio

เป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นสามัญต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นสามัญที่บริษัทนั้นทำได้ในรอบระยะเวลา 12 เดือน หรือในรอบ 1 ปีล่าสุด อัตราส่วนนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยินดีจะลงทุนจ่ายเงินซื้อหุ้นนั้นเป็นกี่เท่าของทุกๆ 1 บาท ของกำไรสุทธิของบริษัท

 

  • PEG Ratio 

คำนวณจากการใช้อัตราการเติบโตของกำไร (Earnings Growth) ของบริษัทเพิ่มเข้ามาในการคำนวณ ซึ่งค่านี้สามารถหาได้จากการนำค่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ในปีปัจจุบันเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

PEG Ratio มีค่าเท่ากับ 1 เท่า หมายความว่าราคาหุ้นสะท้อนการเติบโตของกำไรต่อหุ้นได้เหมาะสม ถ้า PEG Ratio มากกว่า 1 เท่า มีความเป็นไปได้ว่าหุ้นมีราคาซื้อขายที่สูงเกินกว่ามูลค่าที่เหมาะสม

 

PEG Ratio มีค่าน้อยกว่า 1 เท่า มีความเป็นไปได้ที่หุ้นตัวนั้นมีราคาซื้อขายที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น หรือตลาดโดยรวมไม่เชื่อว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตของผลกำไรตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประมาณการไว้

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats