สำรวจค่าธรรมเนียมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ถ้าเอ่ยถึงเงินตราดิจิทัล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) ไม่ได้มีแค่สกุลเงินที่ชื่อบิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังมีอีกเป็นหมื่น ๆ สกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีสินทรัพย์ดิจิทัลอีกประเภทที่มีชื่อว่าโทเคนดิจิทัล (Token Digital)
โทเคนดิจิทัล เป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิของบุคคลในการร่วมลงทุน (Investment Token) หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าและบริการหรือสิทธิอื่น ๆ (Utility Token) ตามที่ได้ตกลงกับผู้ออกโทเคน ซึ่งอาจเสนอขายโทเคนผ่านกระบวนการ Initial Coin Offering (ICO)
การระดมทุนแบบ ICO คือ การระดมทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วย โดยบริษัทจะเสนอและกำหนดขายโทเคนที่กำหนดสิทธิหรือผลประโยชน์ต่าง ๆ ของนักลงทุน เช่น ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการจะร่วมลงทุนสามารถเข้าร่วมได้โดยการนำคริปโตเคอเรนซี หรือเงินมาแลกโทเคนที่บริษัทออก
จากกระแสการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้เห็นการชักชวนให้ผู้ที่สนใจลงทุนทั้งคริปโตเคอเรนซีและ ICO อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากสนใจลงทุนนอกจากต้องศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ต้องลงทุนกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เท่านั้น เพราะจะได้รับคุ้มครองตามกฎหมาย แต่ถ้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต หากเกิดความเสียหายก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองอะไรเลย
สำหรับการดูว่าศูนย์ซื้อขาย นายหน้า ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลมีมาตรฐานหรือไม่นั้น สำนักงาน ก.ล.ต. แนะนำเบื้องต้นว่าให้ดูแหล่งเงินทุนเพียงพอหรือไม่ มีความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมที่รัดกุม มีตัวตนจริง ๆ ตรวจสอบได้ มีมารตการการป้องกันการฟอกเงิน ที่สำคัญก่อนตัดสินใจลงทุนต้องเข้าไปดูในเว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลรายละเอียดคต่าง ๆ ศึกษาขั้นตอนการลงทุน ซึ่งถ้าหากมีประสบการณ์ลงทุนหุ้นก็จะเข้าใจได้ดี เพราะรายละเอียดมีความคล้ายคลึงกัน เช่น รายชื่อสกุลเงินดิจิทัล จำนวนซื้อขาย ราคาต่ำสุด สูงสุด บทวิเคราะห์ เป็นต้น
และที่ขาดไม่ได้ก่อนตัดสินใจลงทุน หนีไม่พ้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น มีค่าธรรมเนียมในกรณีที่ไม่มีการใช้งานบัญชี เป็นต้น เพราะต้นทุนเหล่านี้จะมีผลต่อผลกำไรแท้เกิดขึ้นแท้จริงในอนาคต พูดง่าย ๆ ค่ายไหนเก็บค่าธรรมเนียมแพง ก็จะเหลือกำไรให้นักลงทุนลดลงตามไปด้วย เช่นกันหากเก็บค่าธรรมเนียมต่ำ กำไรจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลจะแข่งขันเรื่องค่าธรรมเนียม ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการออมเงินแล้วได้รับดอกเบี้ยเพื่อเป็นอีกทางเลือกและดึงดูดลูกค้าอีกด้วย เพียงแค่ต้องฝากเงินบาทให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลในสกุลที่ถูกกำหนดเอาไว้ หมายความว่า จะได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงินไว้ในบัญชีเหมือนการฝากเงินไว้กับธนาคาร ส่วนจะได้รับดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสกุลเงินดิจิทัลนั้น ๆ ดังนั้น ณ ขณะนั้น ดอกเบี้ยที่จะได้รับเท่าไหร่ต้องตรวจสอบสม่ำเสมอ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่มีผู้คนเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะต้องการผลตอบแทนในระดับสูง แต่คำว่า “ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงสูง” ใช้ได้กับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน และยิ่งเป็นเรื่องใหม่ยิ่งต้องศึกษาหาข้อมูล เพราะที่ผ่านมาเห็นข่าวการชักชวนจากผู้ที่ไม่หวังดีให้เข้าไปซื้อขายจนเกิดความเสียหายได้ ซึ่ง สำนักงาน ก.ล.ต. กำชับเรื่องความเสี่ยงก่อนลงทุน
อย่าโลภ
กรณีที่มีคนไทยถูกหลอกลวงให้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วได้รับความเสียหายจนเกิดการฟ้องร้อง ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง คือ เกิดจากความโลภที่ต้องการผลตอบแทนสูง ๆ ในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ไม่ศึกษาข้อมูลก่อนว่าสินทรัพย์ที่ไปลงทุนนั้น คืออะไร มีความเสี่ยงแค่ไหน ขณะเดียวกันไม่ได้ตรวจสอบว่าบริษัทได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. หรือไม่
โอกาสล้มเหลวสูง
เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ Startup ดังนั้น จึงมีโอกาสล้มเหลวสูง หากสนใจลงทุนก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องดังกล่าวด้วย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งถือว่าไม่มีการรับประกันความสำเร็จหรือผลตอบแทน
ไม่มีการคุ้มครอง
ถ้าเป็นการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยและได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. นักลงทุนจะได้รับความคุ้มในระดับหนึ่ง แต่ถ้าโอนเงินไปลงทุนต่างประเทศ จะไม่ได้รับความคุ้มครองอะไรเลย
ไม่มีสภาพคล่อง
เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องใหม่ และนักลงทุนนิยมลงทุนกับสินทรัพย์บางประเภท ทำให้การซื้อขายไม่มีสภาพคล่องเปลี่ยนมือยาก ดังนั้น หากซื้อและต้องการขายอาจต้องใช้เวลานาน ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ราคาซื้อขายในแต่ละวันมีความผันผวนสูง เมื่อลงทุนไปแล้วก็ต้องมีเวลาในการติดตามด้วย
ถูก Hack
เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องเทคโนโลยีล้วนๆ ดังนั้น จึงมีโอกาสถูกโจมตี (Hack) จากผู้ที่ไม่หวังดีตลอดเวลา ซึ่งนักลงทุนต้องเรียนรู้ถึงวิธีการป้องกันบัญชีตัวเอง รวมถึงเมื่อโดนโจมตีแล้วต้องรู้ขั้นตอนการเอาตัวรอด
ถึงแม้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ปัจจุบันยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนไทย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ให้ละเอียดถี่ถ้วน ถ้ายังไม่มั่นใจอย่าพึ่งกระโดดเข้าไป ควรใช้วิธีการลงทุนแบบจำลอง เช่น ทดลองซื้อขายผ่านการจดลงบนสมุด เมื่อผ่านไปสักระยะให้สรุปผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเข้าใจดีแล้วค่อยเข้าไปลงทุน ด้วยการเริ่มจากเงินลงทุนจำนวนน้อยๆ และถ้าคิดว่าเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเองก็ค่อย ๆ ใส่เงินเพิ่มขึ้น
