ทำอย่างไร กับ LTF ที่ครบกำหนด
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เงินที่เคยซื้อกองทุน LTF ไปเมื่อปี 2560 เมื่อครบกำหนด 7 ปีปฏิทิน สามารถขายคืนได้ตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่งไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย เช่น หากซื้อเต็มสิทธิ 15% ของเงินได้ฯ จำนวนเงินที่ว่าก็เสมือนเงินโบนัส 2 เดือนเลย
LTF ที่ครบ ผลตอบแทนเป็นอย่างไร?
หากพิจารณาข้อมูลจากเว็บไซต์ WealthMagik ณ 20 ม.ค. 66 พบว่าผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ของกองทุน LTF ต่ำสุดอยู่ที่ -6.55% ต่อปี และสูงสุดอยู่ที่ 8.34% ต่อปี โดยผลตอบแทนดังกล่าวน่าจะใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ลงทุน LTF ส่วนใหญ่ที่ซื้อช่วงปลายปี 2560 และกำลังขายคืนต้นปี 2566
สำหรับกองทุนไหนที่กำไรอยู่ การขายคืนคงตัดสินใจได้ไม่ยาก แต่หากกองทุนนั้นยังขาดทุน เช่น -6.55% ต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 33% ของเงินที่ลงทุนไป การตัดสินใจขายคืน คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นำเงิน LTF ที่ครบ ไปทำอะไรดี
นอกจากการถือลงทุน LTF กองทุนเดิมเพื่อให้เงินเติบโตตามเดิม หรือขายคืนเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายแล้ว เรายังสามารถนำเงิน LTF ที่ครบกำหนดนี้ไปทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์มากขึ้นได้อีก เช่น
1. โปะหนี้
สำหรับกองทุน LTF ที่กำไรหรือขาดทุนไม่มากนัก เช่น ไม่เกิน 3% ต่อปี หรือ 15% ของเงินที่ลงทุน การเลือกขายคืน LTF และนำเงินไปโปะหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ถูกคิดดอกเบี้ยปีละ 16%-25% ก็เสมือนได้เงินส่วนที่ขาดทุนไปคืนในเวลาไม่ถึง 1 ปี
ส่วนหนี้บ้าน ซึ่งดอกเบี้ยอยู่ที่ปีละ 2%-6% แม้การนำเงินที่ขายคืน LTF ไปโปะ ต้องใช้เวลานานขึ้น ถึงจะชดเชยเงินส่วนที่เคยขาดทุนไปได้ แต่สำหรับคนที่กังวลกับผลตอบแทนการลงทุนที่ผันผวน การโปะหนี้ถือเป็นการสร้างผลตอบแทนหรือลดต้นทุนได้ในอัตราที่แน่นอน ตามดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป
2. ลงทุนต่อ
สำหรับคนที่คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ LTF ที่ครบกำหนดยังมีผลขาดทุนสูง เช่น 6.55% ต่อปี หรือ 33% ของเงินที่ลงทุน การเลือกนำเงินไปลงทุนต่อในกองทุน SSF ก็สามารถนำเงินคืนภาษีที่ได้รับ ตามฐานภาษีของตน 5%-35% มาชดเชยเงินส่วนที่เคยขาดทุนไปได้
โดยเงินที่ขายคืน LTF ไม่จำเป็นต้องรอซื้อ SSF ช่วงปลายปีเสมอไป เพราะด้วยเงื่อนไขที่ต้องถือหน่วยลงทุน SSF 10 ปีเต็ม เงินที่รอซื้อ SSF วันที่ 29 ธ.ค. 66 จะขายคืนได้ 30 ธ.ค. 76 แต่หากซื้อ SSF ตั้งแต่ต้นปี เช่น 11 ม.ค. 66 จะสามารถขายคืน SSF ก้อนนี้ได้ 12 ม.ค. 76 เป็นต้นไป
อีกทั้งกองทุน SSF ยังมีทางเลือกที่หลากหลาย โดยมีทั้งกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นไทยเหมือนกองทุน LTF รวมถึงกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ กองทุนผสมที่กระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายซึ่งมีความเสี่ยงปานกลาง และกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นต่างประเทศเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น เป็นต้น
เงินลงทุน LTF ที่ครบกำหนด จะแบ่งบางส่วนเพื่อเป็นรางวัลกับตนเองก็ได้ แต่อย่าลืมนำเงินส่วนใหญ่ไปทำให้เกิดประโยชน์ อย่างการลงทุนให้งอกเงยหรือโปะหนี้เพื่อลดต้นทุน เป็นต้น
