×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

1O กองทุน ETFs ตราสารหนี้ ผลตอบแทนเด่น

500

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

คัดมาให้แล้ว! 10 กองทุน ETFs ตราสารหนี้ ผลตอบแทนโดดเด่น…จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

 

เมื่อนึกถึงการลงทุนตราสารหนี้ อาจนึกถึงพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ภาคเอกชน หรือลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้

 

แต่นับตั้งแต่กองทุน ETFs ตราสารหนี้ ถือกำเนิดครั้งแรกในปี 2545 ที่สหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นทางเลือกสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก เพราะความพิเศษ คือ การผสมระหว่างหุ้นและกองทุนเข้าด้วยกัน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ช่วยกระจายความเสี่ยง เพราะลงทุนตราสารหนี้หลากหลายประเภทตามดัชนีอ้างอิง เรียกว่าได้ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในคราวเดียวกัน ประกอบกับเมื่อสามารถซื้อขายได้เมื่อใดก็ตามที่ตลาดเปิดทำการ เพราะซื้อขายได้เหมือนซื้อหุ้นตัวหนึ่ง

 

ประเภทกองทุน ETFs ตราสารหนี้ที่น่าสนใจ

 

1. กองทุน ETFs พันธบัตรระยะสั้น

 

ถือครองพันธบัตรระยะสั้น มักเป็นพันธบัตรที่ครบกำหนดไม่เกิน 1 ปี สภาพคล่องสูง ความเสี่ยงที่ต่ำ ช่วยปกป้องพอร์ตลงทุนให้มูลค่าไม่ลดลงมากนัก เมื่อเผชิญกับความผันผวน

 

2. กองทุน ETFs พันธบัตรระยะกลาง

 

ถือครองพันธบัตรที่ครบกำหนดระหว่าง 2 ปี–10 ปี มักจ่ายผลตอบแทนมากกว่ากองทุน ETFs พันธบัตรระยะสั้น

 

3. กองทุน ETFs พันธบัตรระยะยาว

 

ถือครองพันธบัตรระยะยาว มีอายุครบกำหนดตั้งแต่ 10 ปี–30 ปี หรือนานกว่านั้น เนื่องจากมีระยะเวลายาวกว่าจึงจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรระยะสั้น

 

โดยพันธบัตรประเภทนี้จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยสูง คือ จะปรับตัวขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง และปรับตัวลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

 

4. กองทุน ETFs ตลาดพันธบัตรรวม

 

ถือครองพันธบัตรในทุกช่วงอายุ ทำให้กระจายความเสี่ยงได้ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนพันธบัตรหลากหลายทุกช่วงอายุ

 

5. กองทุน ETFs ลงทุนพันธบัตรที่มีการจัดอันดับเครดิตสูง

 

ลงทุนเฉพาะในพันธบัตรที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตสูง ทำให้มีความปลอดภัยสูงตามไปด้วย แต่ผลตอบแทนจะต่ำกว่า ETFs ที่ลงทุนพันธบัตรที่มีการจัดอันดับต่ำ

 

6. กองทุน ETFs ลงทุนพันธบัตรที่มีการจัดอันดับต่ำ

 

ลงทุนในพันธบัตรที่ได้รับการจัดอันดับต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงสูง แต่ผลตอบแทนจะอยู่ในระดับสูง

 

เหตุผลหลักที่ควรมีกองทุน ETFs ตราสารหนี้ติดพอร์ต

 

1. เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน

 

ตราสารหนี้จัดเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ จึงกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมในการนำไปใช้ประกอบการจัดกลุ่มสินทรัพย์ลงทุน (Asset Allocation) เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน

 

2. เป็นแหล่งรายได้

 

กองทุน ETFs ตราสารหนี้ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีเงินฝากโดยเฉพาะในภาวะดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ

 

3. เสถียรภาพของพอร์ตลงทุน

 

กองทุน ETFs ตราสารหนี้ ช่วยให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอในสภาวะตลาดต่างๆ

 

ข้อดีของการลงทุนกองทุน ETFs ตราสารหนี้

 

1. ทำให้การลงทุนง่ายขึ้น

 

การติดตามพอร์ตลงทุนที่มีตราสารหนี้หลายประเภทและอายุต่างกันอาจเป็นความวุ่นวายสำหรับนักลงทุน และอาจใช้เวลามากเนื่องจากต้องซื้อขายแต่ละตราสารแยกกัน ขณะที่กองทุน ETFs ตราสารหนี้ สามารถจัดการกลุ่มพันธบัตรให้ได้ ผู้จัดการกองทุนจะดูแลการคัดเลือก ซื้อขาย และปรับสมดุลกองทุน โดยคิดค่าธรรมเนียมการจัดการในอัตราต่ำ

 

2. ลดความเสี่ยงจากการลงทุน

 

กองทุน ETFs ตราสารหนี้ มักถือครองตราสารหนี้ที่หลากหลาย เช่น กองทุน ETFs ตราสารหนี้ที่เก่าแก่ที่สุดในแคนาดา iShares Core Canadian Universe Bond Index ETF (XBB) ถือครองพันธบัตรมากกว่า 1,000 ตัว การถือครองพันธบัตรหลายตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตตราสารหนี้ ซึ่งลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้

 

3. รายได้สม่ำเสมอ

 

หนึ่งในข้อดีของการถือครองพันธบัตร คือ โอกาสในการรับรายได้จากดอกเบี้ย เรียกว่า คูปอง โดยพันธบัตรรายตัวอาจจ่ายคูปองทุกหกเดือนหรือ 1 ปี ขณะที่กองทุน ETFs ตราสารหนี้ มักจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือน นักลงทุนสามารถวางแผนรายจ่ายรายเดือน โดยใช้เงินที่จ่ายออกมาอย่างสม่ำเสมอจากกองทุน ETFs ตราสารหนี้ได้

 

4. ใช้เงินลงทุนไม่มาก

 

หากลงทุนกองทุน ETFs ตราสารหนี้ จะใช้เงินลงทุนเท่ากับราคาหุ้นเพื่อเข้าลงทุน หรือลงทุนรูปแบบ DCA เป็นรายงวด (เช่น รายเดือน) ทำให้การลงทุนแต่ละครั้งจึงใช้เงินไม่มาก

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats