ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 15 ธ.ค. 256O

“บาท” แข็ง หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

สกุลเงินท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าขึ้น เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เพราะตลาดเงินเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอนาคต หลังจากเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม เฟดมีมติ 7 ต่อ 2 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1.25-1.5% ซึ่งถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบปีและเป็นครั้งที่ 5 ของการเริ่มต้นปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปน่าจะเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย.2561

ทั้งนี้ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย พบว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเปิดตลาดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 32.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ของวันก่อนหน้า นอกจากเฟดแล้ว ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตาม

สำหรับการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 601 ล้านบาท แต่เข้าซื้อสุทธิในตลาด ตราสารหนี้ 633 ล้านบาท

มูดี้ส์มองแบงก์ปี 61 มีเสถียรภาพ

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยรายงานระบบธนาคารในเอเชีย-แปซิฟิก ว่า ในปี 2561 ธนาคารในเอเชีย-แปซิฟิกโดยรวมมีความมั่นคง โดยแนวโน้มของระบบธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและระดับภูมิภาค รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัว ขณะที่อัตราส่วนความเสี่ยงการให้สินเชื่อมีเสถียรภาพดีขึ้น และสินเชื่อมีการเติบโตปานกลาง

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุถึงผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทยในไตรมาส 3 ปี ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 4.67 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนจากการกันสำรองเพื่อรองรับคุณภาพ สินเชื่อที่ด้อยลง ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิทรงตัวที่ 2.78% เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) อยู่ที่ 18.4% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 จำนวน 15.8%

ดิสนีย์ทุ่มกว่า 5 หมื่นล้านดอลล์ซื้อฟ็อกซ์

บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ประกาศเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ว่า บริษัทซื้อหุ้นมูลค่า 52.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ของธุรกิจภาพยนตร์ ทีวี และธุรกิจต่างประเทศบริษัททเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ดิสนีย์จะได้ครอบครอง เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค, สตาร์ทีวี, สตูดิโอภาพยนตร์ของฟ็อกซ์, หุ้นในสกาย รวมทั้งเครือข่ายกีฬาในภูมิภาค
การซื้อธุรกิจครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนแผนของดิสนีย์ในการเป็นผู้ให้บริการแพลทฟอร์มระบบสตรีมมิง และจะเป็นคู่แข่งสำคัญของเน็ตฟลิกซ์ โดยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ดิสนีย์ ประกาศว่า บริษัทจะเริ่มให้บริการสตรีมมิงแบบ สแตนอโลน และจะถอดภาพยนตร์ของบริษัทออกจากเน็ตฟลิกซ์ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป

CPNREIT คาดจ่ายผลประโยชน์สูง 9.05%

ซีพีเอ็น รีทแมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ CPNREIT เปิดเผยว่า CPNREIT เป็นกองทรัสต์ที่ลงทุนในศูนย์การค้าเป็นหลัก มีขนาดทรัพย์สินใหญ่ที่สุดในประเทศ หลังแปลงสภาพจากกองทุนรวม CPNRF พร้อมทั้งรับโอนทรัพย์สินและเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ได้แก่ โครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และโรงแรมฮิลตัน พัทยา มูลค่ารวม 11,908 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทรัสต์และที่ปรึกษาทางการเงิน คาดการณ์ในช่วงวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2561 กองทรัสต์ CPNREIT จะมีอัตราการจ่ายผลประโยชน์อยู่ที่ร้อยละ 9.05 ซึ่งคำนวณจากราคาหน่วยลงทุนกองทุนรวม CPNRF ที่ 18.5 บาทต่อหน่วย (ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2560)

โลกก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์44.7ล้านตัน

รายงาน “จับตาขยะอิเล็กทรอนิกส์โลก 2017” ของสหภาพการสื่อสารโทรคมนาคมโลกของสหประชาชาติ (ไอทียู) มหาวิทยาลัยสหประชาชาติและสมาคมขยะแข็งระหว่างประเทศ ระบุว่า ในปี 2559 ทั่วโลกสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 44.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึง 8% จากสองปีก่อนหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับ 4,500 เท่าของน้ำหนักหอไอเฟิล หรือ 9 เท่าของมหาพีระมิดเมืองกิซา หรือเท่ากับปริมาณบรรทุกของรถ 18 ล้อขนาด 40 ตัน จำนวน 1.23 ล้านคันเรียงแถวเป็นระยะทางไป-กลับจากนครนิวยอร์กกับกรุงเทพฯ
#WealthMeUp

ที่มา: โพสท์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวหุ้น, มติชน
ภาพ: media.npr.org