ถอดนิยาม “ความสำเร็จ” จาก 3 มหาเศรษฐีโลก
หากจะถามถึงนิยามหรือความหมายของคำว่า “ความสำเร็จ” ในชีวิตแล้วล่ะก็ เชื่อแน่ว่าใครหลายคนคงจะนึกถึงการเป็นเศรษฐีมีเงินล้าน หรือไม่ก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนในสังคม
วันนี้ Wealth Me Up ขอนำเสนอมุมมองความสำเร็จของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก อย่าง “บิล เกตส์”, “วอร์เรน บัฟเฟตต์”, และ “ริชาร์ด แบรนสัน” ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาหล่านี้มีความคิดต่อความสำเร็จที่ได้รับอย่างไรกัน
“บิล เกตส์” เจ้าของธุรกิจไมโครซอฟท์ มหาเศรษฐีระดับหมื่นล้านดอลล่าร์ ผู้ครองตำแหน่งคนที่รวยที่สุดอันดับ 1 ของโลกหลายสมัย วัย 62 ปี ได้ตอบคำถามที่มีผู้ถามถึงนิยาม “ความสำเร็จ” โดยหยิบยกคำพูดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักต่างวัยและมหาเศรษฐีลำดับที่ 2 ของโลกว่า..
“วอร์เรน บัฟเฟตต์ มักจะพูดกับผมเสมอว่า ความสำเร็จ วัดได้จากความสุขและความรักของผู้คนรอบๆตัวที่มีให้กับคุณ”
และสำหรับบิล เกตส์ เองแล้ว ความสำเร็จก็มีส่วนมาจากการทำงานด้วย
“มันดีมาก ถ้ารู้สึกว่าได้สร้างสรรค์ในสิ่งที่แตกต่าง ทั้งการคิดค้นสิ่งใหม่ หรือการเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เติบโต หรือแม้แต่การช่วยเหลือผู้คนให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องมี”
ปัจจุบัน บิล เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งแคมเปญรณรงค์ให้เหล่าบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลกร่วมกันบริจาคเงินกว่าครึ่งหนึ่งให้กับการกุศล เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้น โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้บริจาคเงินก้อนโตราว 3.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือเกือบ 1.1 แสนล้านบาท) ให้กับมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ และอีก 4 องค์กรการกุศล ซึ่งนับเป็นยอดเงินบริจาคสูงที่สุดเท่าที่บัฟเฟตต์เคยบริจาคมา
สำหรับ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของอาณาจักรเวอร์จิ้นกรุ๊ป วัย 67 ปี ได้กล่าวว่า
“ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มักจะวัดความสำเร็จจากจำนวนเงินที่เขามี หรือจำนวนผู้คนที่รู้จัก แต่ในความคิดของผม ความสำเร็จที่แท้จริงควรจะวัดจากความสุขที่พวกเขามีต่างหาก”
ริชาร์ด แบรนสัน ยังเน้นย้ำอีกว่า หากคุณเลือกที่จะหาความสุขก่อนแล้วล่ะก็ คุณก็จะเจอสิ่งที่เรียกว่าความมั่งคั่งเอง
“เป็นสิ่งที่ผู้คนมักเข้าใจผิดอยู่เสมอว่า เงินเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของผู้ประกอบการ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่และไม่ควรเป็นอย่างนั้น ผมไม่เคยเข้าไปทำธุรกิจเพียงเพราะจะหาเงิน ทุกๆสินค้าและบริการของเวอร์จิ้นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความจริงที่จะก่อให้เกิดความแตกต่างกับชีวิตของผู้คนในทางที่ดีขึ้น”
“และการมุ่งเน้นไปที่ความสุขของลูกค้า จะทำให้เราสามารถสร้างกลุ่มบริษัทที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ โดยเมื่อคุณทำสิ่งที่ดีและใส่ความสนุกเข้าไปด้วย เดี๋ยวเงินก็จะตามมาเอง”
ที่มา: Forbes
กด Subscribe รอเลย…