โลกการเงิน-การลงทุน ก้าวไปอีกขั้นกับ NDID
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของโลก หากจำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินแบบด่วน ๆ คุณไม่จำเป็นต้องไปธนาคารอีกต่อไป เพราะโลกการเงิน-การลงทุนก้าวไปอีกขั้น กับ แพลตฟอร์มกลางที่ใช้ยืนยันตัวตน หรือ National Digital ID (NDID ) แล้วข้อมูลส่วนตัวของเราจะปลอดภัยแค่ไหน Wealth Me Up พาไปหาคำตอบ
ความน่ากลัวของโลกออนไลน์ คือ เมื่อข้อมูลส่วนตัวของเรา จะไม่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป จากบทเรียนกรณี Facebook ทรยศความไว้วางใจของลูกค้า หรือ กรณี Equifax ถูกแฮกข้อมูลบริการบัตรเครดิตของลูกค้ากว่า 150 ล้านราย ดังนั้น เพื่อปกป้องข้อมูลรั่วไหล
โลกจึงมีการพัฒนาระบบพิสูจน์ และ ยืนยันตัวตน หรือ Digital ID ขึ้นมา ขณะที่ประเทศไทย ก็มีการสร้างแพลตฟอร์มกลางในการยืนยันตัวบุคคล หรือ National Digital ID (NDID) แล้ว
แล้วคนไทยจะใช้ประโยชน์ จาก Digital ID และ NDID อย่างไรบ้าง Wealth Me Up จะพาไปไขคำตอบ จาก คุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด
Digital ID คืออะไร
Digital ID เป็นการยืนยันตัวตนผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล แทนการพกบัตรประชาชน ซึ่งข้อมูล Digital ID จะประกอบไปด้วย ชื่อ – นามสกุล ,เพศ ,วันเกิด, เชื้อชาติ ,ที่อยู่ ,กรุ๊ปเลือด ,ข้อมูลลายนิ้วมือ , รูปภาพ ,ข้อมูลม่านตา ,สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้หลายรูปแบบ ทั้งการทำธุรกรรมทางการเงิน การทำประกัน การขอรับบริการทางการแพทย์ การขอเอกสารของรัฐ ทำใบขับขี่แบบดิจิทัล ฯลฯ
ภาคการเงินตื่นตัว
Digital ID ในประเทศไทย จะเริ่มใช้ในภาคการเงินก่อน ล่าสุด มีการรวมตัวตั้ง บริษัท เนชันแนล ดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID เพื่อสร้างแพลตฟอร์มกลางในการยืนยันตัวบุคคลเมื่อทำธุรกรรม เพื่อลดเวลาและความยุ่งยาก สามารถแสดงตัวตนได้ และมาขอข้อมูลได้ หากเจ้าของอนุญาต หากผู้ใช้มีบัญชีธนาคารแห่งใดและสมัครเข้าโครงการ NDID ก็จะสามารถเปิดบัญชีธนาคารแห่งอื่น ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ๆ โดยไม่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
คนไทยได้ประโยชน์จาก NDID แน่นอน
คุณบุญสันต์ ยืนยันว่า คนไทยจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะสามารถเปิดบัญชี โดยไม่มีกระดาษได้ทุกที่ทุกเวลา ยืนยันตัวตนด้วย ระบบ Digital ไม่จำเป็นต้องแสดงตนแบบพบหน้าภายในสิ้นปี 2562 ที่สำคัญยังช่วยลดโอกาสในการปลอมแปลงเอกสารของมิจฉาชีพได้ด้วย เบื้องต้นมีผู้ประกอบการทั้งบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการลงทุน บริษัทประกันชีวิต และบริษัทฟินเทคกว่า 50 รายที่แสดงความสนใจใช้บริการ
มั่นใจปลอดภัยแน่นอน
NDID ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Decentralized ด้วยเทคโนโลยี Blockchain โดยข้อมูลของ NDID เป็น Timestamp Log หน่วยงานต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่า NDID จะไม่เห็นข้อมูลใดๆของลูกค้า จึงทำงานได้อย่างสบายใจ และสามารถตรวจสอบได้
เป้าหมายต่อไป คือ ภาครัฐ
ในปีนี้ NDID จะเริ่มต้นเฟสแรกในงานของสถาบันการเงิน และบริการเฉพาะกับบุคคลธรรมดา ก่อนจะขยายไปสู่เฟส 2 ที่ให้บริการกับนิติบุคคล และเฟส 3 ครอบคลุมถึงข้อมูลแรงงานต่างด้าว โดยจะต้องระดมทุนเพิ่มอีก 100-200 ล้านบาท จากที่ลงทุนแล้ว 100 ล้านบาท ก่อนที่เป้าหมายต่อไปจะเชิญภาครัฐมาใช้ เพราะจะสามารถยืนยันตัวตนตั้งแต่เกิด
