ชี้เป้าหุ้นต่ำ 1O บาท ปันผลงาม

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

พอเห็นตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนหลายคนเกิดอาการกล้าๆ กลัวๆ ลดพอร์ตหุ้นลงเพื่อลดความเสี่ยง บางคนถึงขนาดขายหุ้นทิ้งทั้งหมด

แต่ถ้ายังสนใจลงทุนในตลาดหุ้นอยู่…มีหุ้นประเภทไหนที่ยังสามารถลงทุนได้? 

ถ้าพูดถึงหุ้นที่นักลงทุนรายย่อยนิยม หนีไม่พ้นหุ้นที่ราคาไม่สูง โดยเฉพาะต่ำกว่า 10 บาทจะมีปริมาณการซื้อขายแต่ละวันหนาแน่น และที่น่าสนใจไปกว่านั้นหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่มักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการตัดสินใจซื้อขาย จึงเหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น (เทรดดิ้ง)

อย่างไรก็ตาม มีหุ้นราคาต่ำกว่า 10 บาทหลายตัว ที่เมื่อวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานแล้วพบว่ามีความแข็งแกร่ง แนวโน้มการดำเนินธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น ถ้าซื้อแล้วถือยาว มีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่ดี

จากข้อมูล ณ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขที่ว่า เป็นหุ้นราคาต่ำกว่า 10 บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 6% ขึ้นไป และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2558 – 2562) บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5% และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ล่าสุดต้องเป็นบวก พบว่ามีหุ้นที่เข้าเงื่อนไข 8 ตัว

อัตราเงินปันผลตอบแทนเป็นตัวชี้วัดว่าหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้นปันผลหรือไม่ ยิ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนเติบโตอย่างสม่ำเสมอหลายปี สะท้อนว่าสามารถสร้างผลตอบแทนและลดความผันผวนในการลงทุนระยะยาว ขณะที่ ROI จะวัดผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนเมื่อเทียบกับเงินต้นที่ลงทุน โดยหุ้นที่ดีต้องมีค่า ROI เป็นบวก เพราะหมายถึงผลกำไรที่ได้รับ หลังหักต้นทุนออกแล้ว

ดังนั้นถ้าใครสนใจลงทุนระยะยาว หุ้นปันผลกลุ่มนี้ก็เป็นอีกทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจ

#WealthMeUp

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หมายเหตุ

1.คำนวณเฉพาะหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 10 บาท

2.มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 6% ขึ้นไป (ณ 6 ก.พ. 2563)

3.ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2558 – 2562) บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5%

4. ROI ล่าสุดต้องเป็นบวก (ณ 6 ก.พ.2563)