ลงทุนเพื่อเกษียณเหมือนการวิ่งมาราธอน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
การวางแผนเกษียณอย่างมีความสุขเป็นเป้าหมายที่ใครๆ ก็ฝันถึง แต่หลายคนกลับกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไร จะวางแผนการลงทุนแบบไหนให้เหมาะสม และจะมีเงินเพียงพอใช้ยามเกษียณหรือไม่
“ลงทุนนิยม เกษียณสุข The Series” พูดคุยกับคุณชยนนท์ รักกาญจนันท์ Head Coach & Co founder FINNOMENA ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่จะมาไขความลับการวางแผนเกษียณอย่างชาญฉลาด พร้อมแบ่งปันมุมมองและเทคนิคการจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
เพราะการวางแผนเกษียณไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมาราธอนที่ต้องอาศัยความอดทน มีวินัย และความสม่ำเสมอ เพื่อให้ถึงเส้นชัยอย่างมั่นคงและมีความสุข
“การวางแผนลงทุนเพื่อเกษียณเปรียบเหมือนการวิ่งมาราธอน ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอ ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตรที่เน้นความเร็วอย่างเดียว หลายคนมักเร่งสร้างผลตอบแทนในช่วงแรก พอเห็นว่าตัวเองนำคนอื่น ทั้งที่เพิ่งวิ่งได้แค่กิโลเมตรแรก ก็คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว” คุณชยนนท์ เริ่มต้นบทสนทนา
มีคำถามว่าผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน รายได้ยังไม่มาก แต่ต้องการวางแผนให้มีเงินใช้สบายๆ ตอนเกษียณ คุณชยนนท์แนะนำว่าสามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการตอบคำถามสำคัญ 2 ข้อ
1. ตั้งใจจะเกษียณเมื่อไร อาจเป็นอายุ 50 ปี 55 ปี หรือ 60 ปี
2. ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไรหลังเกษียณ
“คำตอบทั้งสองข้อจะช่วยคำนวณเงินก้อนที่ต้องมี ณ วันเกษียณ ซึ่งเป็นเงินที่จะเลี้ยงดูคุณไปจนบั้นปลายชีวิต” คุณชยนนท์ บอก “เช่น คนอายุ 25 ปี ตั้งใจเกษียณตอนอายุ 60 ปี ต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท เมื่อคำนวณรวมเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี จะต้องมีเงินเก็บประมาณ 35 ล้านบาท ณ วันเกษียณ”
กองทุนรวม สร้างความมั่งคั่งเพื่อวัยเกษียณ
คุณชยนนท์ แนะนำว่า “กองทุนรวมเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เช่น ลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ ที่ไปลงในลักษณะ Master Fund โดยเลือกกองทุนหุ้นที่มีนโยบายลงทุนหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพดี” อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญ ดังนี้
- นโยบายการลงทุนที่ชัดเจน
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 3–10 ปี ที่สม่ำเสมอ
- ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ
“สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยๆ รับความเสี่ยงได้สูง ก็อาจลงทุนในหองทุนรวมที่มีโยบายลงทุนในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ เช่น กองทุนรวม ที่มีนโยบายลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนต่อปีในระดับสูงกว่าผลตอบแทนดัชนีโลก เช่น S&P Index” คุณชยนนท์ บอก
ตามข้อมูลจาก Morningstar กองทุนรวมเทคโนโลยีระดับโลกให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15.8% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เทียบกับ S&P 500 ที่ให้ผลตอบแทน 12.4% ต่อปี โดยการลงทุนผ่านกองทุนรวมช่วยให้ได้รับการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญ และกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนในหุ้นรายตัว ซึ่งเหมาะสำหรับการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ
เคล็ดลับความสำเร็จในการลงทุนระยะยาว
คุณชยนนท์ แนะนำว่าการลงทุนระยะยาวให้สำเร็จต้องอาศัย 3 หลักการสำคัญ
- มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย หลายคนที่อายุ 30 ปี มักคิดว่ายังมีเวลาอีกกว่า 30 ปีกว่าจะเกษียณ จึงละเลยการวางแผน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย “หากคิดแบบนี้อาจทำให้ชีวิตวัยเกษียณจะลำบาก แน่นอนว่าถ้าพูดวันนี้จะเห็นภาพไม่ชัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปี จะรู้ทันทีว่าที่ผ่านมาเราอาจจะพลาดในหลายๆ เรื่อง ดังนั้น อย่าพลาดในวันที่ไม่สามารถกลับตัวได้ เกษียณแล้วมีเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้น ตั้งใจเก็บเงินเพื่อเกษียณ”
- สร้างวินัยทางการเงิน ใช้หลัก “รายได้ – เงินออม = ค่าใช้จ่าย” หมายถึง เมื่อมีรายได้ ให้นำไปเก็บออม ลงทุนก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยนำไปใช้จ่าย “หากใช้วิธีนี้จะทำให้มีเงินเก็บแน่นอน”
- การจัดสรรสินทรัพย์ เมื่ออายุเพิ่มสูงขึ้น รับความเสี่ยงได้น้อยลง กองทุนรวมหรือสินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและผันผวนต่ำ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ รวมถึงทองคำที่ควรมีสัดส่วนในพอร์ตการลงทุน 10 -15% “หมายความว่า เมื่อเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้น พอร์ตลงทุนเติบโตมากขึ้น ควรจัดพอร์ตลักษณะ Asset Allocation รวมถึงการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม”
ข้อควรระวังสำหรับการลงทุน
สำหรับผู้ที่ต้องการเกษียณแล้วสบาย คุณชยนนท์กล่าวว่าจากการสำรวจกลุ่มคนหลายกลุ่มกว่า 1,000 คน พบว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เมื่อรู้แบบฉบับและวิธีการการลงทุนของตัวเองจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง ลงทุนในสินทรัพย์ที่ตัวเองมีความเข้าใจ
ดังนั้น ควรกระจายการลงทุนให้เหมาะสม ศึกษาหาความรู้สม่ำเสมอ เหมือนวอร์เรน บัปเฟตต์ กล่าวเอาไว้ว่า “อย่าพยายามก้าวข้ามรั้วที่มันสูงกว่าตัวเอง เพราะถ้าก้าวข้ามไม่ผ่าน หกล้มลงมาก็ได้รับบาดเจ็บ ถ้ารั้วสูงเกินไปก็ไปหารั้วต่ำๆ หรือเปิดประตู แล้วเดินออกไปก็ได้ไม่เจ็บตัว”
สำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเสี่ยง (รับความเสี่ยงได้ต่ำ) อายุน้อยๆ แต่ไม่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยง เช่น หุ้น เมื่อถึงวันเกษียณอาจมีเงินไม่เพียงพอใช้จ่ายในวัยเกษียณ เช่น อายุ 60 ปี มีเป้าหมายเพื่อเกษียณ 35 ล้านบาท ก็อาจเก็บเงินได้เพียง 5 ล้านบาท และเมื่อเกษียณก็ต้องใช้เงินต่อเดือนลดลง
ดังนั้น ควรวางแผนเผื่อชีวิตในระยะยาว เพราะความเสี่ยงที่สำคัญ คือ เงินหมดก่อนเสียชีวิต จึงควรแบ่งเงินไปลงทุน กระจายความเสี่ยงให้เหมาะสม เช่น การลงทุนแบบ DCA ทยอยสะสมเงินลงทุนระยะยาว
“เพราะการวางแผนเพื่อการลงทุนในการเกษียณ คือ การวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร และเมื่อเราวิ่งแซงคนอื่นแล้วหันหลังไป พบว่ามีเพื่อนอยู่ข้างหลังเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ตอนนี้เพิ่งวิ่งไปได้ 1 กิโลเมตร แล้วบอกว่าเราชนะแล้วนั้น ไม่จริง”
บทสรุป…การลงทุนเหมือนการวิ่งมาราธอนที่ต้องอาศัยความอดทนและสม่ำเสมอ ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตรที่เน้นความเร็ว ดังนั้น ควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งอายุเกษียณและจำนวนเงินที่ต้องการ พร้อมปรับพอร์ตการลงทุนตามช่วงวัย โดยยึดหลักการลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และมีวินัยในการลงทุนระยะยาว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเกษียณอย่างมีความสุข