ซื้อ VS. เช่า (บ้าน) แบบไหนใช่เรา
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ไม่ว่าจะเลือก “ซื้อ” หรือ “เช่า” บ้าน ต่างมีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบแตกต่างกัน ไม่สามารถเจาะจงฟันธงชัดเจนว่า แบบไหนดีกว่ากัน ดังนั้น ควรใช้ปัจจัยเหล่านี้ช่วยในการตัดสินใจว่า วิธีไหน…เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ณ จุดนี้
เงินเฟ้อ
เงินเฟ้อจะทำให้บ้านที่เราซื้อในวันนี้มีราคาสูงขึ้นในวันข้างหน้า พูดง่ายๆ ซื้อบ้านวันนี้ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในอนาคตได้ เพราะการซื้อบ้านเป็นการตกลงราคาซื้อขายและทำสัญญาในปัจจุบัน เช่น วันนี้ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท ถ้าเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี อีก 10 ปีข้างหน้า บ้านหลังนี้จะมีราคาประมาณ 4 ล้านบาท
แต่ถ้าเลือกการเช่า ส่วนใหญ่เป็นการทำสัญญากันแบบเดือนต่อเดือนหรือปีต่อปี ดังนั้น ราคาค่าเช่าก็จะปรับสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ เช่น ปีนี้คิดค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท ปีหน้าเจ้าของบ้านอาจปรับเป็น 10,300 บาทต่อเดือน ถ้าประเมินว่าเงินเฟ้ออยู่ระดับ 3%
ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน
ถ้าอยู่ในช่วงดอกเบี้ยสูง จะทำให้ต้นทุนการกู้เงินซื้อบ้านสูงขึ้นตามไปด้วย แปลว่าต้องแบกภาระค่างวดแต่ละเดือนสูงขึ้น และยิ่งเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ยิ่งทำให้ภาระค่างวดสูงขึ้นไปอีกในอนาคต
ดังนั้น ช่วงดอกเบี้ยสูงๆ อาจต้องยอมเช่าบ้าน แล้วรอจังหวะให้ดอกเบี้ยเป็นขาลงแล้วค่อยตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง ไม่เป็นภาระผ่อนชำระต่อเดือนหนักเกินไห
ต้นทุนต่างกัน
ไม่ว่าจะซื้อหรือเช่าก็จะมีต้นทุนแตกต่างกัน ถ้าเลือกซื้อก็ต้องมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อเป็นเงินดาวน์ แถมต้องมีอีกก้อนเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยประกัน ค่าตกแต่งบ้าน ไม่รวมค่าผ่อนในแต่ละเดือน แต่ข้อดี คือ ดอกเบี้ยที่จ่ายไปนั้นก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากรได้
ถ้าเลือกเช่าบ้าน ต้องมีเงินก้อนหนึ่งเพื่อจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า จากนั้นก็จ่ายค่าเช่ารายเดือน แต่ไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ดังนั้น ไม่ว่าจะซื้อหรือเช่าบ้าน ก่อนตัดสินใจต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการวางแผนการเงินของตัวเองในอนาคต