Checklist ก่อนเป็นหนี้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
วิกฤตCOVID-19 ทำให้การดำเนินชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้น คือ รายได้ เงินที่เคยได้ก็หดหายลงไป ผลที่ตามมาหนีไม่พ้นไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ แต่หากมองในแง่ดี ทุกคนสามารถใช้วิกฤตนี้เรียนรู้ถึงอันตรายของการเป็นหนี้
ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา หลายคนคงสาละวนอยู่กับการติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากรายได้หดหายจากพิษวิกฤตCOVID-19 ถึงแม้จะเป็นช่วงยากลำบาก แต่ข้อดี คือ ทำให้หลายคนได้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองว่าเป็นอย่างไร ถ้ามีวินัยในการใช้จ่ายก็คงไม่มีปัญหา
แต่หากช่วงที่ผ่านมามีการใช้เงินอย่างสนุกมืออาจต้องจัดการหนี้สินกันจ้าหละหวั่น ดังนั้น อาจใช้ช่วงนี้ทบทวนพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง เรียนรู้ข้อผิดพลาดในอดีต และเริ่มต้นการบริหารเงินใหม่ เพราะเรื่องนี้ไม่มีคำว่าสาย ถ้าลงมือทำ
ถ้าไม่จำเป็น อย่าเป็นหนี้
กรณีจำเป็นที่ต้องเป็นหนี้ ก็ควรเป็นหนี้เพียงเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ก่อหนี้เพื่อลงทุนที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือสร้างอนาคต เช่น ซื้อบ้าน เพื่อการศึกษาของลูก เป็นต้น แต่ไม่ควรกู้เงินเพื่อนำไปสร้างความสุขชั่วครั้งชั่วคราว เช่น ช้อปปิ้ง กินดื่ม ท่องเที่ยว เพราะการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็นย่อมส่งผลให้เกิดหนี้สินท่วมหัวในวันข้างหน้า
เป็นหนี้ให้น้อยที่สุด
ควรเป็นหนี้แค่มีกำลังในการผ่อนชำระคืนเท่านั้น โดยปกติแล้วแต่ละคนไม่ควรก่อหนี้เกิน 40% ของรายได้ในแต่ละเดือน เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ควรมีหนี้ที่ต้องผ่อนไม่เกิน 8,000 บาทต่อเดือน เพราะการกู้เงินจำนวนมากๆ ผ่อนต่องวดสูงๆ โดยไม่ดูรายได้ในแต่ละเดือน เช่น เงินเดือน 20,000 บาท แต่ต้องกันเงินไปจ่ายหนี้ในแต่ละเดือน 15,000 บาท อาจไม่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ สุดท้ายต้องไปกู้หนี้ยืมสินไปเรื่อยๆ
อย่าเป็นหนี้หลายทาง
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการบริหารเงิน คือ กู้หนี้ทุกอย่างที่ขวางหน้า เช่น เห็นสินค้าจัดโปรโมชั่นก็รูดบัตรเครดิตซื้ออย่างสนุกสนาน เห็นเพื่อนซื้อมือถือรุ่นใหม่ ก็ซื้อตามเพื่อน ซึ่งการใช้ชีวิตแบบชักหน้าไม่ถึงหลังแบบนี้ อาจทำให้ชีวิตการเงิน รวมถึงการงานเสียหาย
คืนหนี้ให้เร็วที่สุด
เมื่อเป็นหนี้แล้ว ต้องมองหนี้ก้อนนี้เป็นเหมือนศัตรู แปลว่าต้องรีบกำจัดออกไปจากชีวิตให้เร็วที่สุด เพราะหากเก็บหนี้ไว้กับตัวนานๆ ผลที่ตามคือ ดอกเบี้ยจะบานขึ้นทุกวันไม่มีวันหยุด จนกลายเป็นภาระที่ไม่จบสิ้น
“เป็นหนี้” แปลว่าการนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายในวันนี้ โดยมีภาระผูกพันที่ต้องชำระคืนหนี้สินตามเงื่อนไขที่ตกลงเอาไว้กับเจ้าหนี้ หากไม่ไม่สามารถจัดการกับหนี้ได้แล้ว “หนี้” จะเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนั้น ก่อนก่อหนี้ต้องถามตัวเองก่อนว่าจ่ายคืนไหวหรือเปล่า ที่สำคัญควรก่อหนี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
