เลือกหุ้นให้โดนใจด้วยแนวคิด CAN SLIM
ดัชนีหุ้นไทยทะลุ 1,600 จุด เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้ามา ทำให้นักลงทุนรายย่อยเริ่มมั่นใจมากขึ้นกับ “กระทิง” รอบใหม่ และหมายมั่นปั้นมือว่าจะสร้างผลกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ บางคนถึงกับวาดฝันเห็น 1,700 จุดภายในสิ้นปีนี้
ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มหนึ่งกำลังเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้น แต่มีอีกกลุ่มที่ยังล้มเหลว ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นเป็นช่วงขาขึ้น นักลงทุนกลุ่มหลังก็ยังไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ ซึ่งเหตุผลมีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ เลือกหุ้นผิด
นี่คือคำพูดของ William J. O’Neil ผู้เขียนหนังสือ How to Make Money in Stocks: A Winning System in Good Times and Bad เจ้าของสูตรการคัดเลือกหุ้นเรียกว่า CAN SLIM ที่โด่งดังไปทั่วโลก
CAN SLIM เป็นเทคนิคการคัดเลือกหุ้น เน้นค้นหาหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง (High Growth Stocks) มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางขึ้นไปในรูปแบบ Capital Gain ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ผสมผสานกันระหว่างทางด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค มีความหมายคือ
C : Current Earnings
กำไรต่อหุ้น (EPS) ไตรมาสล่าสุด ควรมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 18 – 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
A : Annual Earnings
กำไรต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 5 ปีล่าสุดควรมีการเติบโตที่ดี โดยเขากำหนดให้ในแต่ละปีกำไรต่อหุ้นควรเติบโต 25 – 50% ซึ่งก็เป็นแนวคิดของการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า
N : New
ปัจจัยใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยหรือเปลี่ยนแปลงผลประกอบการ เช่น ทีมผู้บริหารใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ การหาตลาดใหม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้เกิดจุดสูงสุดใหม่ของราคาหุ้นได้ ซึ่งพบว่ากว่า 95% ของบริษัทที่ทำการศึกษา เคยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
S : Supply – Demand
หมายถึงปริมาณอุปทานและอุปสงค์ของหุ้น โดยหุ้นขนาดเล็กที่มีปริมาณการซื้อขายสูง ราคาย่อมขยับตัวสูงขึ้นได้ง่ายกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เพราะหุ้นขนาดใหญ่ต้องอาศัยอุปสงค์ มากกว่าถึงจะทำให้ราคาหุ้นขยับสูงขึ้นได้ในระดับที่เท่าๆ กัน
L : Leader หรือ Laggard
บริษัทที่เป็นผู้นำตลาดและธุรกิจที่ตัวเองทำ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น
I : Institutional Support
เลือกหุ้นที่มีนักลงทุนสถาบันอย่างน้อย 3 – 10 รายเป็นผู้ถือหุ้น เพราะโดยส่วนใหญ่นักลงทุนสถาบันก่อนตัดสินใจลงทุนหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง มักจะมองถึงประสิทธิภาพทีมผู้บริหาร มุมมองระยะยาวของการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น
M : Market Direction
ถ้านักลงทุนรู้ทิศทางตลาดได้อย่างชัดเจน เช่น ตลาดกำลังเป็นขาลง ตลาดเริ่มเป็นขาขึ้น การเปลี่ยนแปลงของปริมาณและราคา หรือเข้าใจการปรับกลยุทธ์ของนักลงทุนสถาบัน หรือรายใหญ่ๆ จะทำให้ได้เปรียบกับการวางกลยุทธ์
หากนำเทคนิค CAN SLIM มาคัดเลือกหุ้นในตลาดหุ้นไทย มีหุ้น 7 ตัวที่ผ่านเกณฑ์ดังนี้
กด Subscribe รอเลย…