ตลาดยุคกระทิง ซื้อหุ้นอะไรดี
ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งมีความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดความสงสัยและท้ายที่สุดพบว่าสาเหตุหลักๆ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนวัตถุดิบหลัก ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตได้รับความนิยมลดลง คำถามคือ แล้วจะซื้อหุ้นอะไรดี
“ควรมองหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการบริการน่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรได้ดีกว่ากลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต”
คำแนะนำจากคุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
นอกจากปัจจัยบวกของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วงครึ่งหลังของปี และ Valuation ยังอยู่ในระดับไม่แพงแล้ว หุ้นกลุ่มนี้จะ Outperform กลุ่มธุรกิจภาคการผลิตได้
หากพิจารณาภาพรวมกำไรของธุรกิจต่างๆ ช่วงครึ่งหลังของปีจะพบว่าหลายธุรกิจมีแนวโน้มกำไรผันแปรตามฤดูกาล (Seasonality) ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ มีแนวโน้มกำไรที่จะปรับตัวขึ้นโดดเด่น ในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี คือกลุ่มการแพทย์, กลุ่มการเงิน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยพบว่ากำไรสุทธิเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (2555 – 2559) ช่วงไตรมาส 3 ของกลุ่มดังกล่าว ปรับตัวขึ้นประมาณ 37.19%, 15.04% และ 2.83% ตามลำดับ (เมื่อเทียบกับไตรมาส 2)
ปัจจัยที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการมีแนวโน้มรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี เนื่องจากภาพรวมของยอดขาย รวมถึงการรักษากำไรขั้นต้นของธุรกิจดังกล่าวมักจะมีประเด็นเด่นๆ ที่สนใจ เช่น การรักษาคุณภาพของบริการ การยกระดับบริการให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น และตอบโจทย์กับลูกค้าในระดับกลางถึงบน เพิ่มโอกาสต่อการปรับราคา ส่งผลบวกต่อกำไรขั้นต้นมีโอกาสขยับตัวสูงขึ้น
อีกทั้ง หากบริษัทสามารถเพิ่มคุณภาพของบริการและองค์ความรู้ให้ซับซ้อนขึ้น ทำให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันได้ยากขึ้น ถือเป็นปัจจัยเสริมให้อัตรากำไรอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้นทุนหลักของธุรกิจบริการมักไม่เปลี่ยนแปลงตามตลาดโลก จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพของอัตรากำไรขั้นต้นอีกด้วย
จากประเด็นดังกล่าว “วิจิตร” จึงคัดเลือก 10 หุ้นเด่นจาก 5 กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการบริการ ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มผลการดำเนินงานโดดเด่น ดังนี้
กด Subscribe รอเลย…
