ลงทุน “หุ้น” ยังไงให้รอด ยุค COVID-19? | ลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ เป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายดีและเติบโตต่อเนื่อง | ลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ | ลงทุนในบริษัทที่มีสภาพคล่องสูง มีสินทรัพย์หมุนเวียนสูง มีกระแสเงินสดเป็นบวกมาโดยตลอด มีภาระหนี้สินต่ำหรือไม่มีหนี้เลย | ลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน มีความมั่นคงและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น | เน้นการวิเคราะห์อัตราส่วนราคา (Price Multiples) โดยดูจากค่า P/E Ratio ต้องต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และค่า P/BV Ratio น้อย เช่น น้อยกว่า 1 เท่า
ดร.นิเวศน์ เรียกช่วงเวลานี้ว่าเป็น “Perfect Strom” คือเจอ 2 วิกฤติในคราวเดียว คือ โรค COVID-19 และสงครามราคาน้ำมัน แต่ในทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ และวิธีหา “หุ้นคุณค่า” ในภาวะวิกฤติของ ดร.นิเวศน์ คือ…
เศรษฐกิจแบบนี้ ลดค่าใช้จ่ายอะไรได้บ้าง? 1.เปลี่ยนแพ็กเกจมือถือ 2. ลด-เลิก Wi-Fi 3. ลดช้อปปิ้ง 4. ลดกาแฟ ชานมไข่มุก บุหรี่ เหล้าเบียร์ 5. ลดรูดบัตรเครดิต
ตลาดหุ้นผันผวนหนัก อยากโยกเงินไปพักที่กองทุนรวมตลาดเงินเพราะเสี่ยงต่ำกว่า จะลงกองไหน เช็กตามนี้ก่อน นโยบายการลงทุน มีสัดส่วนตราสารหนี้แต่ละประเภทเท่าไหร่ เลือกกองทุนที่มีผลตอบแทนโตสม่ำเสมอ ดูมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ว่ากองทุน “กำไร” หรือ “ขาดทุน” ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ เท่าไหร่ และพิเศษสุดสำหรับแฟนๆ WMU เราคัด 10 กองทุน ผลงานเด่น มาให้เลือกกันสบายๆ ตามนี้
อยากลงทุนหุ้น แต่ไม่กล้าเลือกหุ้นรายตัว ลอง ETF มั้ย? ถ้ายังไม่รู้จัก… WMU จะเหลาให้ฟัง | ETF เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ปัจจุบันมี 17 กองทุน | ETF ซื้อขายได้ที่ราคา real time เหมือนหุ้น | ลงทุนในตราสารหนี้ ดัชนีหุ้นไทย ดัชนีหุ้นต่างประเทศ คือ หุ้นจีน และสินค้าโภคภัณฑ์ คือ ทองคำ | เหมาะกับคนอยากซื้อหุ้น แต่ไม่รู้จะเลือกตัวไหน | ค่าใช้จ่าย = ค่าหน่วยลงทุน+ค่าธรรมเนียม+ VAT | ลงทุนขั้นต่ำ 100 หน่วย
ลงทุนทั้งทีต้อง “ดูให้ดี” ว่าอยู่ในภาวะเศรษฐกิจแบบไหน? | ตกต่ำ…ลงทุน “ตราสารหนี้” | ฟื้นตัว…ลงทุน “หุ้น” | เฟื่องฟู…ลงทุน “ทองคำ” | ถดถอย…ลงทุน “เงินฝาก”