ปรับ 5 นิสัย รับปีใหม่ไฉไลกว่าเดิม

 

 

หลายสำนักต่างออกมาฟันธงว่าเศรษฐกิจปี 2561 จะกลับมาฟื้นตัวและดีกว่าปีที่ผ่านมา เหล่าผู้ประกอบการและลูกจ้างมืออาชีพทั้งหลายได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกใจชื้นขึ้น เพราะถ้าเศรษฐกิจดี ผลประกอบการบริษัทในปีนี้ก็น่าจะดี และปลายปีจะส่งผลให้กำไร เงินเดือน รวมถึงโบนัสก็จะดีตามไปด้วย

 

แต่สิ่งต่างๆ จะดีขึ้นได้ ย่อมต้องมาจากเหตุปัจจัยที่ดีก่อน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายว่า..

 

อยากเพิ่มลูกค้าใหม่มากขึ้น?

อยากจัดการงานต่างๆได้ดีขึ้น?

อยากให้เจ้านายเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนให้?

อยากมีสุขภาพดีกว่าเดิม?

อยากมี Work Life Balance มากขึ้นกว่าปีก่อน?

 

ทั้งหมดนี้จะเป็นจริงไม่ได้เลย หากคุณไม่ “เริ่ม” ตั้งแต่ตอนนี้

 

วันนี้ Wealth Me Up ขอแนะนำ 5 นิสัย ที่จะนำคุณไปสู่ปีใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

 

1.จับตา “คำมั่นสัญญา” ที่เคยตั้งไว้อยู่เสมอ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ควรหมั่นจับตามองคำมั่นสัญญาที่ได้เคยตั้งไว้เมื่อตอนต้นปีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความคิด หรือโครงการต่างๆ ที่หมายมั่นปั้นมือจะทำให้สำเร็จ

 

จากผลการวิจัยจาก David Maxfield และ Justin Hale 2 นักวิจัยของบริษัทเทรนนิ่งด้านความเป็นผู้นำอย่าง Vital Smarts พบว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้พนักงานระดับท๊อปต่างจากพนักงานทั่วไป คือ พวกเขามักจะใช้เครื่องมือในการช่วยบันทึกความทรงจำ เช่น โพส-อิท แอพลิเคชั่น หรืออีเมล์เพื่อช่วยเตือนว่าต้องทำอะไร ในเวลาใดบ้าง อีกทั้งการจดบันทึกความทรงจำนี้ยังช่วยลดความเครียดจากการทำงานลงได้อีกด้วย

 

2.เช็ค “อีเมล” เมื่อทำงานบางส่วนเสร็จแล้ว

ในปัจจุบัน พนักงานออฟฟิตต้องรับมือกับอีเมล์โดยเฉลี่ยในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 100 ฉบับ และใช้เวลามากถึง 6.3 ชั่วโมงในการเช็คและตอบข้อความเหล่านั้น ซึ่งกูรูส่วนใหญ่มักแนะนำวิธีแก้ปัญหานี้ คือ ให้คุณปรับการเช็คอีเมล์มาเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำในแต่ละวัน แต่ Alex Moore ผู้เชี่ยวชาญในการจัดการอีเมล์และ CEO บริษัท Boomerang เล่าว่า เขาจะเช็คอีเมล์ก็ต่อเมื่อได้ทำงานบางส่วนสำเร็จแล้วเท่านั้น

 

“ผมต้องพยายามทำให้แน่ใจก่อนว่า ผมได้สะสางงานบางอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มอ่านอีเมล์”

 

3.จัดการ “ตารางเวลา” ช่วงเช้าให้ดี

การเริ่มต้นกิจกรรมในช่วงเช้า มีผลอย่างมากต่ออารมณ์ในกิจกรรมระหว่างวันทั้งการทำงาน การประชุม หรือการสัมภาษณ์งาน นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้นำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนต่างเข้มงวดกับตารางเวลาในช่วงเช้าอย่างมาก

 

ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของอาณาจักรเวอร์จิ้น มักจะเริ่มต้นวันตั้งแต่ตอนตีห้า เพื่อลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ทานอาหารเช้า และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ส่วนโทนี่ ร็อบบินส์ ไลฟ์โค้ชระดับโลก เริ่มต้นวันด้วยการนั่งสมาธิเป็นเวลา 10 นาทีทุกวัน ด้านทอม คอลเล่ย์ นักวาแผนการเงินและนักเขียนหนังสือ “Change Your Habits, Change Your Life” กล่าวว่าการปรับกิจวัตรประจำวันในช่วงเช้าจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น

 

4.หาเวลาอยู่กับ “ตัวเอง”

การหาเวลาอยู่กับตัวเองอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งอาจเป็นไปได้ยากสำหรับการงานในยุคสมัยนี้ แต่จากงานวิจัย พบว่า พนักงานระดับท๊อปมักจะหาเวลาในการอยู่กับตัวเองเพื่อทบทวนเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำในแต่ละสัปดาห์เสมอ

 

ส่วนคำถามสำคัญที่ควรถามเพื่อทบทวนตัวเอง คือ “งานที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ ทำให้คุณไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน และชีวิตได้หรือไม่?

 

5.ทำตามกฎ “2 นาที”

ถ้าเป้าหมายของคุณในปีนี้ คือ การมีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถบริหารจัดการเวลาได้คุ้มค่ามากที่สุดแล้วล่ะก็ คุณต้องนำกฏ “2 นาที” มาใช้

 

ตามกฏ คือ “ไม่ว่ากิจกรรมใดก็ตามที่สามารถทำให้เสร็จภายในเวลา 2 นาที หรือน้อยกว่านั้น ให้คุณลงมือทำทันที” นี่คือเคล็ดลับที่บรรดาพนักงานชั้นยอดใช้ทำการงานเล็กๆน้อยๆ ให้สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่กลายเป็นดินพอกหางหมูและมีช่วงเวลาพักผ่อนมากขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา: CNBC

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram